วารสารดนตรีและการแสดง https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal <p><strong>วัตถุประสงค์</strong><br />วารสารดนตรีและการแสดงมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />1. เพื่อส่งเสริมทางด้านวิชาการ การค้นคว้าวิจัย และการสร้างสรรค์ทางด้านดนตรี และการแสดง<br />2. เพื่อเผยแพร่ผลงานทางด้านวิชาการ และวิจัยด้านดนตรีและการแสดง<br />3. เพื่อเป็นการบริการวิชาการแก่สังคม<br />4. เพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแนวความคิด องค์ความรู้ ความก้าวหน้าในด้านวิชาการ และวิจัยทางดนตรีและการแสดง</p> <p> วารสารดนตรีและการแสดงเปิดรับบทความวิจัย และบทความวิชาการ ของนักวิชาการ ครู อาจารย์ นิสิต นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับวิชาการด้านดนตรีและการแสดง ได้แก่ ดนตรีไทย ดนตรีตะวันตก นาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์ตะวันตกศิลปะการละคร การออกแบบเพื่อการแสดง การผลิตสื่อด้านดนตรีและการแสดง หรือบทความที่ครอบคลุมทุกสาขาวิชาทางด้านดนตรีและการแสดง โดยบทความที่ส่งมาตีพิมพ์ต้องไม่เคยเผยแพร่ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารหรือสิ่งพิมพ์อื่น</p> <p> บทความทุกฉบับผ่านการประเมินคุณภาพบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ที่มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญตรงหรือเกี่ยวเนื่องกับสาขาของบทความ จำนวน 3 ท่านต่อบทความ ผู้ประเมินจะไม่ทราบว่ากำลังพิจารณาบทความของผู้เขียนคนใด พร้อมกันนั้นผู้เขียนบทความจะไม่สามารถทราบว่าใครเป็นผู้พิจารณา (Double Blind Review) ลิขสิทธิ์ของบทความเป็นของเจ้าของบทความ บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นทัศนะของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบบทความนั้น</p> <p> </p> th-TH [email protected] (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติภัณฑ์ ชิตเทพ) [email protected] (นายสุภัทรชัย จีบแก้ว) Mon, 25 Dec 2023 13:24:52 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การวิเคราะห์ทักษะการบรรเลงของบทฝึกเอทูดสำหรับวงดุริยางค์เครื่องลม “อินทัช หมายเลข 1” ประพันธ์โดยมานิต บูชาชนก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269761 <p> บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอการวิเคราะห์บทฝึกเอทูดสำหรับวงดุริยางค์เครื่องลม “IN TOUCH หมายเลข 1” ประพันธ์โดยมานิต บูชาชนก มีลักษณะเป็นบทเพลงที่สามารถนำไปใช้ในการบรรเลงเพื่อออกแสดง และฝึกฝนทักษะการบรรเลงได้ เหมาะสำหรับการพัฒนาทักษะการบรรเลงดนตรีในระดับสูง โดยบทประพันธ์เอทูดนี้ สามารถนำไปใช้ในการประเมินทักษะด้านคุณภาพเสียงการบรรเลงของวงดุริยางค์เครื่องลม โดยเป็นไปตามหลักการของ 4In เป็นหลักการสำคัญสำหรับองค์ประกอบที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพเสียงที่ดี ประกอบไปด้วย In Tone In Tune In Time และ In Touch เป็นต้น สำหรับบทฝึกเอทูด เป็นกาiรวบรวมเอาทักษะและเทคนิคการฝึกซ้อมของวงดุริยางค์เครื่องลมมาเรียบเรียงและประพันธ์แนวทำนองขึ้นโดยจัดอยู่ในองค์ประกอบ In Touch ตามหลักการแบบ 4In บทฝึกนี้มีรูปแบบจังหวะเดินแถว ซึ่งเป็นคุณลักษณะการบรรเลงที่มีบทบาทต่อการบรรเลงบทเพลงของวงดุริยางค์เครื่องลมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้บรรเลงสามารถฝึกฝนทักษะการบรรเลงบทเพลงในจังหวะเดินแถว เพื่อที่จะพัฒนาต่อยอดจนสามารถนำไปสู่การบรรเลงบทเพลงที่มีระดับสูงขึ้นต่อไปได้</p> ณัฐศรัณย์ ทฤษฎิคุณ Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269761 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 กลองขุมดิน มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมดนตรีล้านนา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269762 <p> บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการนำเสนอแนวความคิดมรกดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมดนตรีล้านนา มีเรื่องราวความเป็นมาของเครื่องดนตรีที่ได้พัฒนาขึ้นจากภูมิปัญญาของศิลปินพื้นบ้าน โดยจะนำเสนอในเครื่องดนตรีประเภท “กลอง” ศิลปวัฒนธรรมล้านนาเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยองค์ความรู้ทางด้านศิลปะที่ถ่ายทอดกันมาจากอดีตสู่ปัจจุบัน มีเอกลักษณ์ทางภูมิภาคที่โดดเด่นในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเรื่องของวัฒนธรรมดนตรีล้านนา ศิลปะวัฒนธรรมดนตรีของล้านนามีความเป็นอัตลักษณ์ ทั้งเรื่องของเครื่องดนตรี และสำเนียงดนตรี โดยเฉพาะเครื่องดนตรีประเภท “กลอง” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่แพร่หลายตามภูมิภาคต่าง ๆ มีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ เสียงที่ดังก้องกังวานและมีความไพเราะตามคุณลักษณะของวัสดุที่ทำขึ้น ประกอบกับลีลาการตีกลอง ที่ได้รับสร้างสรรค์อย่างมีศิลปะ กลองหลาย ๆ ชนิดเป็นที่รู้จักอย่างดีโดยทั่วไป สำหรับทางวัฒนธรรมดนตรีล้านนานั้น กลองขุมดิน เป็นกลองอีกชนิดหนึ่งที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีคำกล่าวว่าในสมัยโบราณนั้น มนุษย์ได้ประดิษฐ์เป็นเครื่องดนตรีขึ้นมา เพื่อใช้สำหรับเตือนภัยของมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ใช้ตีเพื่อบอกสัญญาณให้ผู้ที่อาศัยได้รับรู้ถึงเหตุการณที่จะเกิดขึ้น โดยจะใช้มือตีที่บริเวณปากหลุมให้เสียงดังกังวาน ต่อมาสิ่งนี้ได้เกิดเป็นเครื่องดนตรีจากแนวคิดทางภูมิปัญญาของศิลปินล้านนาที่ได้พบเห็นแล้วนำมาพัฒนาเป็นกลองดิน หรือ กลองขุมดิน จากศิลปินของล้านนา 2 ท่านได้แก่ พ่อครูคำ กาไวย์ และพ่อครูมานพ รายะณะ ในทางความเชื่อของกลองขุมดินจะมีความเชื่อว่าเป็นการตีเพื่อเรียกฝนให้ตกลงมาสู่พื้นดินเพื่อความอุดมสมบูรณ์ โดยครูทั้งสองท่านได้พัฒนามาเป็นกลองดินฉบับของตน พ่อครูคำ กาไวย์ ได้พัฒนากลองดินมาเป็นลักษณะของกลองกาบหมาก โดยการขุดดินลักษณะแบบเดิมแต่ใช้แผ่นกาบหมากมาวางที่ปากหลุม จากนั้นใช้ไม้ไผ่มาวางตรงกลางในแนวตั้งนำเชือกมาคลึงให้ตึงและใช้ไม้ตี ส่วนพ่อครูมานพ รายะณะ ได้อนุรักษ์แบบดั่งเดิมไว้ เพียงแต่ได้ใช้หนังมาหุ้มที่ปากหลุม ต่อมาพ่อครูมงคล เสียงชารี ลูกศิษย์ของพ่อครูมานพ รายะณะ ได้นำแนวคิดของครูมาต่อยอด โดยการปั้นกลองที่ใช้วัสดุจากดินผสมปูนซีเมนต์ขึ้นมา เพื่อสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ และเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวต่อไป บทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในวงการศึกษาทางศิลปวัฒนธรรมดนตรีล้านนาที่จะช่วยกันอนุรักษ์ ต่อยอด และเกิดการสร้างสรรค์ในทางศิลปะสืบไป </p> <p><strong><br /><br /></strong></p> รณฤทธิ์ ไหมทอง Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269762 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 เพลงแม่ฟ้าหลวง : มิติการสร้างสรรค์บทค่าวล้านนาสู่ทำนองเพลง https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269763 <p> เพลงแม่ฟ้าหลวง หรือเพลงตวยฮัก เป็นการประพันธ์เพลงแรกของอาจารย์รักเกียรติ ปัญญายศ ข้าราชการวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ราวเมื่อ พ.ศ.2527 จากความประสงค์ของอาจารย์นคร พงษ์น้อย ผู้อำนวยการไร่แม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายในสมัยนั้น เบื้องต้นเป็นการประพันธ์เพลงเพื่อการบรรเลงประกอบการแสดงชุดฟ้อนไหว้สาแม่ฟ้าหลวง จำนวน 2 ท่อน ท่อนละ 6 บรรทัด ต่อมาได้ปรับมาเป็นการบรรเลงประกอบขับร้องโดยอาจารย์นคร พงษน้อยได้นำ “บทค่าวเรื่องนางจม” ของพญาพรหมโวหารมาให้อาจารย์รักเกียรติ ปัญญายศบรรจุทำนองร้อง และได้ปรับปรุงทำนองตัดเพิ่มเหมาะสำหรับบทค่าว โดยตัดให้เหลือเพียง 1 ท่อน 4 บรรทัด พบว่า ผู้ประพันธ์ได้ตัดท่อน 2 ออก จากนั้นได้เลือกท่อน 1 ตัดบรรทัดที่ 4-6 ออก แล้วแต่งทำนองท้ายบรรทัดจนจบเพลง เป็นเพลงแม่ฟ้าหลวงฉบับบรรเลงรับร้องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้จัดลำดับการแบ่งมิติการสร้างสรรค์เพลงออกเป็น 4 ช่วงใหญ่ ๆ ได้แก่ ช่วงที่ 1 ทำนองเพลงแม่ฟ้าหลวงแบบเต็ม ช่วงที่ 2 ทำนองเพลงแม่ฟ้าหลวงแบบตัด หรือแม่ฟ้าหลวงฉบับบรรเลงรับร้อง ช่วงที่ 3 ทำนองเพลงแม่ฟ้าหลวงสู่การสร้างสรรค์บทร้องเพลงแม่ฟ้าหลวง ช่วงที่ 4 ทำนองเพลงแม่ฟ้าหลวงชั้นเดียว นอกจากนี้เพลงแม่ฟ้าหลวงยังได้ถูกนำไปประกอบการแสดงนาฏกรรมละครพื้นบ้านล้านนา และถูกนำไปผลิตซ้ำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น วงสะล้อซอซึง วงปี่พาทย์ วงดนตรีล้านนาผสมดนตรีตะวันตก อาทิเช่น วงโฟล์คซองคำเมือง กระทั่งเพลงแม่ฟ้าหลวงได้นำไปสู่ความประทับใจสูงสุด ที่เป็นส่วนหนึ่งในการบรรเลงรับร้องบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง “สมเด็จย่าพิชิตยอดดอยอินทนนท์” เนื่องในวาระครบรอบที่สมเด็จพระศรีนรินทราบรมราชชนนี มีพระชนม์ครบรอบ 120 สร้างความปราบปลื้มปีติยินดีแก่ผสกนิกรชาวไทย และยังจะเป็นการท้าทายให้กับผู้ที่สนใจในดนตรี ได้เข้ามาร่วมเรียนรู้ต่อกระบวนการสร้างสรรค์ประพันธ์เพลง เชิดชูไว้ให้เป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติสืบไป</p> ธีรวัฒน์ หมื่นทา Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269763 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การบริหารจัดการกองถ่ายภาพยนตร์ในสถานการณ์ไม่ปกติ: กรณีศึกษาสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269765 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;การจัดการกองถ่ายภาพยนตร์เป็นกระบวนการสำคัญในด้านการผลิตภาพยนตร์และสื่อที่ใช้การเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียง และเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติยิ่งทำให้การจัดการกองถ่ายเป็นกระบวนการสำคัญในการดำเนินกิจกรรมถ่ายทำให้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์และปลอดภัยสำหรับคนทำงาน โดยได้ศึกษาแนวทางและมาตรการการถ่ายทำของต่างประเทศจากบทความข่าวภาษาต่างประเทศที่เผยแพร่ทางออนไลน์ระหว่าง เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2563 โดยยกกรณีศึกษาจากประเทศไทย, ประเทศสหราชอาณาจักรอังกฤษ, ประเทศสหรัฐอเมริกา, ประเทศไอซ์แลนด์ และประเทศออสเตรเลีย มาศึกษาและค้นพบว่าแนวทางในการจัดการกองถ่ายภาพยนตร์ประกอบไปด้วย 2 ประเด็นสำคัญได้แก่ 1. แนวทางป้องกันโรคช่วงเตรียมการก่อนถ่ายทำ (Pre-Production Period) พบว่าแนวทางของประเทศไทยบกพร่องในด้านการดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายและจิตใจของทีมงาน 2. แนวทางปฏิบัติในการทำงานช่วงดำเนินการถ่ายทำภาพยนตร์ (Production Period) โดยแนวปฏิบัติของประเทศไทยขาดการให้รายละเอียดในแนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และยังขาดแนวคิดการใช้เทคโนโลยีในการถ่ายทำโดยมีกรณีศึกษาคือประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการดำเนินการถ่ายทำแบบเวอร์ช่วล โปรดักชัน เพื่อลดความเสี่ยงในติดเชื้อโรคระหว่างการเดินทางและลดข้อจำกัดในการถ่ายทำภาพยนตร์&nbsp;&nbsp;</p> มโน วนเวฬุสิต Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269765 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การวิเคราะห์กลวิธีการขับร้องเพลงตับต้นเพลงฉิ่ง สามชั้น https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269766 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;การใช้เพลงตับต้นเพลงฉิ่ง สามชั้นในการฝึกการร้องเพลงเพื่อเน้นการพัฒนาทักษะการร้องและเทคนิคการออกเสียง การแบ่งแยกวรรคและการเรียนรู้เทคนิคการร้อง มีการสร้างความเข้าใจและรู้เรื่องการขับร้องเพลงไทยเบื้องต้น เพลงตับต้นฉิ่งช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจการใช้เสียงและการหายใจในขณะขับร้องเพลงไทยอย่างถูกต้อง เพลงตับต้นฉิ่งมีลักษณะท่วงทำนองที่ง่าย ทำให้ผู้เรียนสามารถฝึกทักษะการร้องเพลงไทยในขั้นตอนของการเรียนรู้การขับร้องเพลงไทย โดยเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจการใช้เสียงและหายใจ รวมถึงการแบ่งวรรคคำและการเอื้อนเสียงให้เกิดความสัมพันธ์กับการผ่อนลมหายใจในขณะขับร้อง ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ขั้นตอนการขับร้องเพลงไทย และช่วยในการนำเสนอเพลงที่ซับซ้อนเพื่อฝึกทักษะการร้องที่มีเทคนิคขั้นสูงขึ้น การเปรียบเทียบและวิเคราะห์เพลงต่าง ๆ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจการประยุกต์ใช้ทักษะการขับร้องเพลงไทย</p> จันทนา คชประเสริฐ, จันทรา เนินนอก Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269766 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การศึกษาการแสดงโขนคณะนายพิเชษฐ https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269823 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;บทความวิชาการนี้เป็นการถอดความรู้ของศิลปินและวิเคราะห์การแสดงโขนคณะนายพิเชษฐ กำกับการแสดงโดยนายพิเชษฐ กลั่นชื่น การออกแบบและสร้างสรรค์การแสดงโขนชุดนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดแสดงโขน ณ พิพิธภัณฑ์ The musée du quai Branly, Jacgues Chirac ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส <br>17-19 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยเปิดการแสดงให้ผู้ชมชาวไทยได้รับชมในวันที่ 4 มิถุนายน 2565 ณ ลานเครื่องบิน ช่างชุ่ย, กรุงเทพมหานครและจัดแสดง <br>ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2566&nbsp; การศึกษาครั้งนี้ผู้เขียนมีส่วนร่วมในการกำกับดนตรีประกอบการแสดงและทำหน้าที่ขับร้องจึงใช้วิธีการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม การจดบันทึกการทำงานและการสนทนากับผู้กำกับการแสดง นอกจากนั้นยังนำงานเขียนถอดความรู้จากการทำงานของผู้กำกับการแสดงบนสื่อออนไลน์เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์จึงพบว่า แนวคิดหลักในการกำกับการแสดงโขนคณะนายพิเชษฐคือ ความต้องการให้คุณภาพการแสดงโขนยังคงแนวทางตามแบบประเพณีแต่มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพของนักเต้น การบรรเลงดนตรีและขับร้อง และการออกแบบท่ารำเพื่อสื่อสารกับผู้ชมร่วมสมัยโดยการรื้อมายาคติของตัวละคร การวิเคราะห์บท การตีความตัวละคร การจัดองค์ประกอบบนเวทีที่สามารถสร้างความหมายทำให้ผู้ชมรู้สึกและเข้าใจสถานการณ์ของเรื่องและตัวละครในขณะชมการแสดงโขน</p> ณัฏฐนันธ์ เอื้อศิลป์ Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269823 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การสร้างสรรค์การแสดงบางปะกงแหล่งชีวิต : กระชังปลาของคุณตา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269754 <p>&nbsp; &nbsp; งานวิจัยการสร้างสรรค์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสรรค์การแสดงบางปะกงแหล่งชีวิต : กระชังปลาของคุณตา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากปราชญ์<br>ชาวบ้านซึ่งเป็นครูภูมิปัญญาท้องถิ่นลุ่มแม่น้ำบางปะกงทางด้านการเพาะเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ประกอบอาชีพมายาวนานกว่า 70 ปี เก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคคลข้อมูลมาสร้างสรรค์การแสดง ในรูปแบบการเล่าเรื่องชุมชนผ่านบทเพลง ซึ่งมีกรอบแนวคิดในการวิจัยตามขั้นตอนดังนี้ กระบวนการสร้างสรรค์ ผลผลิตการสร้างสรรค์ และผลลัพธ์จากการสร้างสรรค์ ตามลำดับเพื่อนำมาสู่เป้าหมายของวัตถุประสงค์งานวิจัยชิ้นนี้ โดยมีการศึกษาและการวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) การแสดงบางปะกงแหล่งชีวิต : กระชังปลาของคุณตา และ 2) ศึกษาและวิเคราะห์กระบวนการสร้างสรรค์การแสดง โดยผู้วิจัยใช้<br>การอธิบายในเชิงสุนทรียศาสตร์ (Aesthetics)</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;จากการศึกษาการวิเคราะห์ข้อมูลทำให้ผู้แสดงเข้าใจในเรื่องราวของการแสดงและการถ่ายทอดบทเพลงได้อย่างลึกซึ้ง จึงทำให้สามารถสื่อสารออกมาให้<br>ผู้ที่รับชมเกิดความรู้สึก เข้าใจในเรื่องราวตามที่ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ไว้ และทำให้เห็นถึงกระบวนการสร้างสรรค์การแสดงเพื่อชุมชน เพื่อการสร้างสรรค์งานแสดงชิ้นนี้จะส่งผลและเกิดประโยชน์ต่อชุมชนและคนในชุมชนได้ตามเป้าหมายที่ผู้วิจัยได้ตั้งใจไว้</p> <p>&nbsp;</p> <p>&nbsp;</p> ราชมณ รัตนเวคิน, รณชัย รัตนเศรษฐ, อภิรักษ์ ชัยปัญหา Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269754 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การประพันธ์บทเพลงชุดพระพุทธบาทปูชิตชลบุรี https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269755 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;งานวิจัยเรื่องการประพันธ์บทเพลงชุดพระพุทธบาทปูชิตชลบุรี ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษามูลบทเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาทในจังหวัดชลบุรี และประพันธ์บทเพลงชุดพระพุทธบาทปูชิตชลบุรี ผลการศึกษาปรากฏพบรอยพระพุทธบาทในวัดพระอารามหลวง จำนวน 6 วัด ได้แก่ <br>วัดเขาบางทราย วัดใหญ่อินทาราม วัดบางพระวรวิหาร วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร วัดชัยมงคล และวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร รอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดอัญเชิญมากจากประเทศอินเดีย เชื่อว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.500</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;การประพันธ์บทเพลงชุดพระพุทธบาทปูชิตชลบุรีได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ ลักษณะเฉพาะ ประเพณี เอกลักษณ์ชาติพันธุ์และศิลปะวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประพันธ์ขึ้นตามหลักดุริยางคศิลป์ไทย ได้แก่ การยืดยุบทำนอง ทำนองเพลงต้นราก และประพันธ์แบบอัตโนมัติ บทเพลงแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงแรก ทิ้กท้อบ่วงหุกส่วย ประกอบด้วยเพลงโล้เตี่ยจิว เพลงรัวจีน เพลงขึ้นฝั่ง และเพลงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ช่วงที่สอง เพลงไป่โล่วโก้ และช่วงที่สาม พระพุทธบาทปูชิต ประกอบด้วยเพลงศรีสมุทรสมโภช เพลงรุ่งโรจน์ศรีพโล เพลงธเรศนครอินทร์ เพลงฉิ่งนิมิตบางพระ เพลงพุทธชัยมงคล เพลงภูมิพลเฉลิมชัย และจบด้วยทำนองเพลงรัวพระพุทธบาทปูชิต</p> กิตติภัณฑ์ ชิตเทพ, ภัทระ คมขำ Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269755 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การสร้างสรรค์บทเพลงเทิดพระเกียรติชุด พระแม่อยู่หัวของแผ่นดิน https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269757 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;การศึกษาวิจัยเรื่องการสร้างสรรค์บทเพลงเทิดพระเกียรติชุด พระแม่อยู่หัวของแผ่นดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการประพันธ์เพลงชุด<br>พระแม่อยู่หัวของแผ่นดินและเพื่อสร้างสรรค์ผลงานด้านดุริยางค-ศิลป์ไทย ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า พระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ จำแนก 6 ด้านได้แก่ ด้านความมั่นคงของชาติ ด้านการอนามัยและสังคมสงเคราะห์ ด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านศิลปาชีพ ด้านการศึกษา และด้านศิลปวัฒนธรรม วิธีการประพันธ์ยึดหลักการประพันธ์เพลงไทยบรรเลงลักษณะบรรยายเรื่องราว แบ่งทำนองออกเป็น 4 ช่วง รวม 9 บทเพลง ได้แก่ เพลงแรกแย้ม เพลงพระราชประวัติ ท่อน 1 เสียงของแม่ ท่อน 2 แผ่ไทยผอง ท่อน 3 ชนซาบซึ้ง เพลงพระราชกรณียกิจ 6 เพลง ได้แก่ เพลงแดนดิน เพลงแพทย์หลวง เพลงอนุรักษ์ เพลงสืบศิลป์ เพลงดินสอ เพลงมรดก และเพลงสรรเสริญ ได้แก่ เพลงพระแม่อยู่หัวของแผ่นดิน มีวิธีการประพันธ์ทำนองเพลง 3 รูปแบบ ได้แก่ การนำทำนองต้นรากส่วนหนึ่งของบางเพลงมาเป็นทำนองสัญลักษณ์ในการประพันธ์ การอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 9 และการประพันธ์ขึ้นโดยอัตโนมัติจากจินตนาการตามพระราชกรณียกิจ บรรเลงด้วย<br>วงปี่พาทย์ไม้นวมและวงดนตรีประยุกต์ร่วมสมัย</p> อนันท์สิทธิ์ การหนองใหญ่, ขำคม พรประสิทธิ์ Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269757 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การประพันธ์และเรียบเรียงเพลงประกอบการแสดงของครูอำนาจ นุ่นเอียด https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269758 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;งานบทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชีวประวัติและผลงานของครูอำนาจ นุ่นเอียด และเพื่อศึกษาวิธีการประพันธ์และเรียบเรียงเพลงประกอบการแสดงของครูอำนาจ นุ่นเอียด ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ จากการศึกษาพบว่า ครูอำนาจ นุ่นเอียด เกิดเมื่อปี พ.ศ.2494 เป็นชาวจังหวัดพัทลุงเริ่มฝึกหัดดนตรีด้วย<br>ตัวเองตั้งแต่วัยเด็ก จากนั้นก็ฝึกเป่าปี่จนมีความรู้ความชำนาญในการบรรเลงเครื่องดนตรีโนราและหนังตะลุงในทุก ๆ ชิ้น โดยเฉพาะปี่ ในการวิเคราะห์เพลงประกอบการแสดงของครูอำนาจ นุ่นเอียด พบว่า การแสดงมีทั้งหมด 16 ชุดการแสดง ใช้เพลงจำนวน 73 เพลง และมี 14 เพลงเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่ <br>โดยแต่ละเพลงมีความไพเราะอยู่ในตัวด้วยกันทั้งสิ้น มีการเปลี่ยนบันไดเสียงและใช้เสียงหลุมเพื่อให้เกิดสำเนียงที่ไพเราะอ่อนหวาน และยังมีลักษณะที่<br>โดดเด่นอื่น ๆ อยู่อีก 5 ประการได้แก่ 1) การใช้เสียงเด่น หรือที่เรียกว่า Pillar Tone 2) การย้ำทำนอง 3) การใช้กระสวนจังหวะของทำนองแบบคงที่ 4) การใช้ทำนองโอดพัน และ 5) การใช้ทำนองฉายรูป ครูอำนาจประพันธ์โดยใช้วิธีการพลิกแพลงทำนองจากทำนองเพลงเดิมที่มีอยู่ การยุบโดยตรงและการยุบโดยวิธีการพลิกแพลงทำนองจากเพลงเดิมที่มีอยู่ ตามหลักการประพันธ์เพลงและยังต้องอาศัยจินตนาการในการสร้างสรรค์ทำนองที่มีลักษณะเฉพาะเพลงขึ้นมา</p> ปภัค แก้วบุญชู, ขำคม พรประสิทธิ์ Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269758 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 บทประพันธ์เพลง “วิภาวี” สำหรับวงดนตรีแจ๊สขนาดเล็ก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269759 <p> บทประพันธ์เพลง <em>“วิภาวี”</em> สำหรับวงดนตรีแจ๊สขนาดเล็ก ประพันธ์ขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสรรค์บทประพันธ์เพลงใหม่ โดยนำเสนอแนวคิดการประพันธ์เพลงและการอิมโพรไวส์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิภาวี ผู้หญิงที่น่าค้นหาคนหนึ่ง เธอเป็นคนเรียบร้อยและมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก เธอจะคิดและทำให้ผู้อื่นรู้สึกประหลาดใจอยู่เสมอ ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้หมดกำลังใจ แต่เธอก็เลือกที่จะมองข้ามและคิดว่าเหตุการณ์ร้ายเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องตลกที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิต ผู้ประพันธ์เพลงนำอุปนิสัยของเธอมาใช้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับการประพันธ์เพลงโดยใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น แนวคิดดนตรีโมดัลแจ๊ส การพัฒนาโมทีฟ การซ้ำโมทีฟ การซีเควนซ์ การใช้คอร์ดแทนทรัยโทน การเปลี่ยนกุญแจเสียง และการทดเสียง บทประพันธ์เพลงนี้ได้<br />ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์ เผยแพร่สู่สาธารณชนผ่านสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2563</p> นนท์ธวัช เชี่ยวพิมลพร, ธีรัช เลาห์วีระพานิช Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269759 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 การสร้างชุดการสอนโน้ตเพลงไทยขั้นพื้นฐาน โดยใช้ทฤษฎีโน้ตดนตรีไทยใหม่ https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269760 <p> การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและศึกษาประสิทธิภาพของชุด การสอนที่สร้างขึ้น โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาเอกดนตรีตะวันตก 10 คน ที่สมัครใจเรียน โดยมี เกณฑ์การคัดเลือกคือ ผู้เรียนที่ผ่านรายวิชา ดยช.202 ปฏิบัติเครื่องดนตรีไทย และผ่านรายวิชา ดยก. 103 การอ่าน ฟัง เขียน 1 ในหลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ โดยผู้วิจัยดำเนินการสอนด้วยตนเอง ใช้เวลาในการสอนคาบละ 60 นาที รวมทั้งหมด 9 คาบเรียน โดยจัดการเรียนการสอนสัปดาห์ละ 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2564 โดยใช้วิทยาลัยดุริยศิลป์มหาวิทยาลัยพายัพ เป็นสถานที่ในการจัดการเรียนการ เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วย คู่มือครูและคู่มือผู้เรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย ซึ่งผู้เรียนที่ผ่านการเรียนรู้จากการใช้ชุดการสอนโน้ตเพลงไทยขั้นพื้นฐาน โดยใช้ทฤษฎีโน้ตดนตรีไทยใหม่จะมีผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียนและหลังเรียน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80/80 </p> <p> เมื่อนำผลการวิจัยมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า ผลคะแนนทดสอบ ระหว่างเรียนและหลังเรียนของผู้เรียนที่ใช้ชุดการสอนโน้ตดนตรีไทยขั้นพื้นฐาน โดยใช้ทฤษฎีดนตรีไทยใหม่ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 88.88/81.19 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐาน</p> ภูริทัต อรณุการ, ชัยพฤกษ์ เมฆรา Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269760 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700 บทประพันธ์เพลงมหาบัณฑิตนิพนธ์: “สุริยคราส” ซิมโฟนิกโพเอ็มสำหรับออร์เคสตรา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269764 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;บทประพันธ์สุริยคราส เป็นบทประพันธ์ประเภทซิมโฟนิกโพเอ็มสำหรับวงออร์เคสตรา มีทั้งหมด 4 ท่อน ในแต่ละท่อนจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านของทำนอง และจังหวะ แต่ละท่อนจะมีทำนองที่เปรียบเสมือนทำนองหลักของบทเพลงแฝงอยู่ ผู้ประพันธ์เรียกทำนองนี้ว่า ทำนองสุริยคราส ซึ่งเป็นการทำให้บทเพลงชุดมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยที่ผู้ประพันธ์ส่วนใหญ่ที่ประพันธ์บทเพลงประเภทนี้ บทเพลงจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับการนำหลาย ๆ เพลงมารวมกัน แต่ในบทประพันธ์สุริยคราสนี้ จะแตกต่างจากโครงสร้างเดิมโดยใช้ทำนองหลักของบทเพลงเชื่อมบทเพลงทั้ง 4 ท่อนไว้ นอกจากนี้ในแต่ละท่อนผู้ประพันธ์ได้เลือกใช้เครื่องดนตรีที่นำเสนอแตกต่างกัน เพื่อให้ได้สีสันของเสียงหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงการใช้เทคนิคการซ้อนชั้นทำนอง เพื่อให้บทเพลงมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp;บทประพันธ์นี้มีความยาวโดยรวมประมาณ 15 นาที แบ่งออกเป็น 4 ท่อน โดยที่ท่อนสุดท้ายจะมีความยาวมากกว่าท่อนอื่น ๆ เปรียบเสมือนบทสรุปของบทประพันธ์ชิ้นนี้</p> เจริญวิช รุจิรัสสวรวงศ์, ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร Copyright (c) 2023 คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา https://so06.tci-thaijo.org/index.php/Mupabuujournal/article/view/269764 Mon, 25 Dec 2023 00:00:00 +0700