บทวิเคราะห์เชิงนิติปรัชญาต่อสิทธิในการได้รับความช่วยเหลือในการฆ่าตัวตาย (The Right to Assisted Suicide) ผ่านคำพิพากษาของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป

ผู้แต่ง

  • ชัญญา ฉัตรพรจรัส นิสิตในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ชาคริต ทาทอง นิสิตในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ปภัสรินทร์ ธนัทปิยะศาสตร์ นิสิตในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • พิมพ์มาดา แก้วกสิ นิสิตในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • รัชชานนท์ สุวรรณแสน นิสิตในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • สมิตา หนูปลื้ม นิสิตในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คำสำคัญ:

นิติปรัชญา, สิทธิในการฆ่าตัวตายโดยได้รับการช่วยเหลือ, สิทธิที่จะมีชีวิต, สิทธิในชีวิตส่วนตัว, ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป

บทคัดย่อ

“สิทธิที่จะมีชีวิต (Right to Life)” เป็นสิทธิที่ได้รับการยอมรับไว้ในข้อ 2 แห่งอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีใจความว่าสิทธิในชีวิตของบุคคลจะต้องได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย และรัฐสมาชิกของอนุสัญญาฯ ต่างมีหน้าที่ในการป้องกันมิให้บุคคลใดถูกพรากชีวิตโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ประเด็นที่น่าสนใจปรากฏขึ้นในคดีจำนวนหนึ่งซึ่งถูกเสนอต่อศาลยุโรปว่าด้วยการเรียกร้องสิทธิในการฆ่าตัวตายโดยได้รับการช่วยเหลือ (Assisted Suicide) โดยคดีเหล่านั้นอ้างอิงข้อ 8 แห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิในการที่จะได้รับความเคารพในชีวิตส่วนตัว หรือกล่าวคือเป็นสิทธิของปัจเจกชนที่จะมีอัตตาณัติส่วนตนในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกจบชีวิตของตนเอง โดยรัฐมีหน้าที่งดเว้นไม่เข้าไปแทรกแซงการใช้สิทธิดังกล่าว

จากแนวคำพิพากษาของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป พบว่าเดิมศาลฯ มักจะให้น้ำหนักไปที่พันธกรณีของรัฐในการคุ้มครองสิทธิในการมีชีวิตของประชาชนตามข้อ 2 แต่ต่อมาศาลฯ วางบรรทัดฐานเปลี่ยนไปว่าในกรณีการฆ่าตัวตายโดยได้รับการช่วยเหลืออยู่ในขอบข่ายของสิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคล ซึ่งพึงได้รับการคุ้มครองตามข้อ 8 เช่นกัน

บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดของศาลสิทธิมนุษยชนในการวางบรรทัดฐานในคดีเรียกร้องสิทธิในการฆ่าตัวตายโดยได้รับการช่วยเหลือ ผ่านมุมมองทางนิติปรัชญา เนื่องจากโดยลักษณะคดีเป็นคดีที่มีความคลุมเครือในการปรับใช้บทบัญญัติลายลักษณ์อักษรในอนุสัญญาฯ โดยคณะผู้เขียนได้หยิบยกแนวคิดทางนิติปรัชญาที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน ได้แก่ แนวคิด Rule of Recognition ของ H.L.A Hart กับแนวคิด Rights Thesis ของ Ronald Dworkin ซึ่งนักนิติปรัชญาทั้งสองมีแนวคิดเกี่ยวกับบทบาทของศาลในการตัดสินคดีที่ซึ่งมีลักษณะยุ่งยาก หรือคดีที่บทบัญญัติกฎหมายลายลักษณ์อักษรไม่ครอบคลุม (Hard Cases) ที่แตกต่างกัน โดยแนวคิดของฮาร์ทให้ความสำคัญกับการใช้อำนาจดุลยพินิจโดยศาลเพื่อวางหลักกฎหมายใหม่นำมาปรับใช้แก่คดี ในขณะที่ดอว์คินเสนอว่าศาลมีหน้าที่ตัดสินคดียุ่งยากโดยอาศัยการปรับใช้หลักการซึ่งอยู่เบื้องหลังบทบัญญัติทางกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิซึ่งปัจเจกชนมีโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นสำคัญ ทั้งนี้ แนวคิดทั้งสองสามารถนำมาใช้อ้างอิงเพื่อสนับสนุนการให้เหตุผลประกอบคำพิพากษาของศาลฯ ได้เช่นเดียวกันแม้จะมีการให้เหตุผลที่แตกต่างกัน คุณลักษณะของทฤษฎีทางนิติปรัชญาซึ่งอาจถูกนำไปปรับใช้เพื่อยืนยันความถูกต้องชอบธรรมของการตัดสินใจทางกฎหมายจึงเป็นสิ่งที่พึงระลึกถึงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการตัดสินใจคดีซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อน และคำพิพากษาตัดสินของศาลส่งผลกระทบต่อสิทธิของปัจเจกชนโดยตรง

เอกสารอ้างอิง

Cossey v. the United Kingdom App no 10843/04 (ECtHR, 27 September 1990)

D. Sartori, ‘End-of-life issues and the European Court of Human Rights. The value of personal autonomy within a ‘proceduralized’ review’ (2018) 52 QIL 23.

E. Orts, ‘Positive Law and Systemic Legitimacy: A Comment on Hart and Habermas’ (1993) 6(3) Ratio Juris 245.

European Convention on Human Rights art 1.

European Convention on Human Rights art 2.

European Convention on Human Rights art 2.1.

European Convention on Human Rights art 8.1.

European Convention on Human Rights at Preamble.

G. Dajović, ‘Hart’s Judicial Discretion Revisited’ (OpenEdition Journals) <http://journals.openedition.org/ revus/9735> accessed 28 May 2024.

Gross v. Switzerland App no 67810/10 (ECtHR, 14 May 2013) (Second Section).

H. Kelsen, Introduction to Problems of Legal Theory (Clarendon Press 1992).

Hass v. Switzerland App no 31322/07 (ECtHR, 20 January 2011) (First Section).

HLA Hart, The Concept of Law (3rd edn, Oxford University Press 2012).

HLA Hart, The Concept of Law (Oxford University Press 1961).

J. Akandji-Kombe, Positive obligations under the European Convention on Human Rights: A guide to the implementation of the European Convention on Human Rights (Council of Europe Human Rights Handbook Series No.7, Council of Europe 2007).

J. Raz, The Authority of Law: Essays on Law and Morality (Oxford University Press 1979).

Koch v. Germany App no 479/09 (ECtHR, 19 July 2012).

M. La Torre, ‘The Hierarchical Model and H. L. A. Hart’s Concept of Law’ (2013) 21 Revus 141.

Michigan Law Review, ‘Dworkin’s “Rights Thesis”’ (1976) 74 Mich.L.Rev. 1167.

O. Cox, ‘The Meaning of Law in The Concept of Law’ (1999) 24 Australian Journal of Legal Philosophy 145.

Paul Edwards, ‘Problems of the Philosophy of Law’ (1967) 6 ENCYC. OF PHILOSOPHY 264.

Pretty v. the United Kingdom App no 2346/02 (ECtHR, 29 April 2002) para 61.

Pretty v. the United Kingdom App no 2346/02 (ECtHR, 29 April 2002) para 66.

Pretty v. the United Kingdom App no 2346/02 (ECtHR, 29 April 2002)

Pretty v. the United Kingdom App no 2346/02 (ECtHR, 29 April 2002) paras 37-42.

R. Dworkin, ‘Hard Cases’ (1975) 88 HLR 1057.

R. Dworkin, ‘The Model of Rules’ (1967) 35(1) U.Chi.L.Rev. 14.

R. Dworkin, Taking Rights Seriously (Harvard University Press 1977).

R. Sartorius, ‘Social Policy and Judicial Legislation’ (1971) 8(2) American Philosophical Quarterly 151.

R. Wacks, Understanding Jurisprudence (3rd edn, Oxford University Press 2012).

S. Sharpiro, ‘The “Hart-Dworkin” Debate: A Short Guide for the Perplexed’ in Arthur Ripstein (ed) Ronald Dowrkin Contemporary Philosophy in Focus (Cambridge University Press 2007).

Spartan Steel & Alloys Ltd. v. Martin & Co. [1963] 1 QB 27.

W. Starr, ‘Law and Morality in H.L.A. Hart’s Legal Philosophy’ (1984) 67 Marq.L.Rev. 673.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-01-16

รูปแบบการอ้างอิง

ฉัตรพรจรัส ช., ทาทอง ช., ธนัทปิยะศาสตร์ ป., แก้วกสิ พ., สุวรรณแสน ร., & หนูปลื้ม ส. (2025). บทวิเคราะห์เชิงนิติปรัชญาต่อสิทธิในการได้รับความช่วยเหลือในการฆ่าตัวตาย (The Right to Assisted Suicide) ผ่านคำพิพากษาของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป. วารสารนิติปริทัศน์, 5(1), 25–46. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/NitiPariJ/article/view/275027

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ