การพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรควัณโรคปอด : กรณีศึกษา 2 ราย

ผู้แต่ง

  • รัชนี ไชยดี

คำสำคัญ:

วัณโรคปอด การพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ ระบบบริการงานอาชีวเวชกรรม

บทคัดย่อ

การรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรควัณโรคปอดที่มีภาวะแทรกซ้อนโรคอื่นๆร่วมด้วย  สำคัญที่สุดคือความร่วมมือของผู้ป่วยในเรื่องความตระหนักในการรับประทานยาและการฟื้นฟูสภาพปอด  ซึ่งรวมไปถึงการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องโดยการมาตามนัด  จะทำให้ผู้ป่วยดีขึ้น มีชีวิตรอดกลับมาใช้ชีวิตประจำวันสามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ  พยาบาลอาชีวอนามัยผู้ดูแลผู้ป่วยวัณโรคปอดควรมีความรู้และทักษะในการดูแลเอาใจใส่ติดตามผู้ป่วยที่มารักษาอย่างต่อเนื่องในโรงพยาบาล  รวมถึงบทบาทในการตรวจคัดกรองและประเมินผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นวัณโรคปอดเนื่องจากการทำงานที่รับงานแกะสลักหินมาทำที่บ้าน  ส่งเสริมผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาฟื้นฟูสภาพในโรงพยาบาล  ดูแลในเรื่องสิทธิและผลประโยชน์ค่าชดเชยกรณีเจ็บป่วยจากการทำงานตามที่ผู้ป่วยสมควรจะได้รับ

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาการพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรควัณโรคปอด : กรณีศึกษา 2 ราย

วิธีการศึกษา : ศึกษาผู้ป่วย 2 ราย เลือกแบบเฉพาะเจาะจงในผู้ป่วยโรควัณโรคปอดที่มีโรคซิลิโคซิสร่วมด้วยและผู้ป่วยวัณโรคเหยื่อหุ้มปอดที่มีภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดข้างซ้ายและมีโรคประจำตัวคือไทรอยด์เป็นพิษ  ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 2 รายนี้มีอาชีพเป็นลูกจ้างสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและข้าราชการสิทธิจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลาง  ที่เข้ารับการคัดกรองประเมินจากหน่วยงานอาชีวอนามัยโรงพยาบาลกาฬสินธุ์เพื่อรับเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยจากการทำงาน  โดยศึกษาประวัติผู้ป่วย  การรักษาพยาบาล  รวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วย  ญาติ  พยาบาลประจำคลินิกวัณโรคและเวชระเบียนของผู้ป่วย  มีการประเมินสภาพ  ซักประวัติ  ตรวจร่างกาย  เพื่อให้ทราบปัญหาและความต้องการของผู้ป่วย  นำข้อมูลที่ได้มาวางแผนเพื่อให้การพยาบาลและช่วยเหลือเรื่องสิทธิเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยจากการทำงาน  กำหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลโดยใช้แนวคิดแบบประเมินผู้ป่วยตามแบบแผนทางด้านสุขภาพ 11 แบบแผนของ

กอร์ดอน  ทฤษฎีการดูแลตนเองของโอเร็ม  แนวคิด บทบาทหน้าที่การบริหารจัดการรายกรณี (case  management) ของพยาบาลอาชีวอนามัย  มาตรฐานการพยาบาลอาชีวอนามัยเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพคนทำงาน 7 ด้าน  มีการติดตามประเมินผลการพยาบาลอย่างต่อเนื่องทั้งในโรงพยาบาลจนกระทั่งจำหน่ายกลับบ้านและติดตามเยี่ยมดูแลที่บ้าน

ผลการศึกษา : กรณีศึกษาที่ 1 เพศชายอายุ 36 ปี เป็นวัณโรคปอดร่วมกับโรคซิลิโคซิส  ปฏิเสธโรคประจำตัวการทำงานเป็นกลุ่มประชาชนรับงานแกะสลักหินมาทำที่บ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตอำเภอนาคู  จังหวัดกาฬสินธุ์  สิทธิการรักษาหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ได้รับการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยเป็นวัณโรคปอดร่วมกับโรคซิลิโคซิสจากผลเอ็กซเรย์ปอด(CHEST X RAY PA UPRIGHT) โรงพยาบาลกาฬสินธุ์  ผลตรวจเสมหะ(Sputum AFB 3 วัน) ผลเป็นลบ  ผู้ป่วยมีอาการไอเรื้อรัง  ไอเป็นเลือด  เหนื่อยหอบบางครั้ง  เจ็บหน้าอกบางครั้ง  น้ำหนักตัวลด  แพทย์ให้การรักษาด้วยยาวัณโรค และส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น  หลังจากนั้นผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นตลอดมาแต่อาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้นเพราะไม่ไปตามนัดรับยาไม่ต่อเนื่อง เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบเหมือนหายใจไม่อิ่มบางครั้ง  ไอห่างๆครั้ง  ไม่มีเสมหะ  ติดตามผลการรักษาผู้ป่วยขอรับยาต้านวัณโรคต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น  อาการดีขึ้นได้ลาออกจากการทำงานเพื่อพักรักษาตัวที่บ้าน  ขอรับยาต้านวัณโรคต่อที่โรงพยาบาลนาคู

กรณีศึกษาที่ 2  เพศหญิงอายุ 42 ปี  เป็นวัณโรคเยื่อหุ้มปอดร่วมกับน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดข้างซ้าย  โรคประจำตัวไทรอยด์เป็นพิษ  ทำงานที่โรงพยาบาลของรัฐสิทธิจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลาง  ได้รับการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยเป็นวัณโรคเยื่อหุ้มปอดร่วมกับโรคไทรอยด์เป็นพิษจากผลเอ็กซเรย์ปอด(CHEST X RAY PA UPRIGHT) โรงพยาบาลกาฬสินธุ์  รับยาวัณโรคจากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์  ผู้ป่วยมีอาการไข้  ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอกเป็นบางครั้ง  เหนื่อยหอบบางครั้ง  น้ำหนักตัวลดลง 5 – 7 กก.ใน 2 เดือน  ได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 10 วันได้รับยาวัณโรคและยาปฏิชีวนะครบ  ได้รับการฟื้นฟูสภาพปอดโดยการเป่าไตรโฟร์(เครื่องเป่าปอด)อาการดีขึ้น  ไม่มีไข้  อาการเหนื่อยหอบลดลง  แพทย์ได้จำหน่ายให้กลับบ้าน  นัดรับยาและเอ็กซเรย์ปอดต่อเนื่องทุก 2 เดือน  ฟื้นฟูสภาพปอดโดยการเป่าไตรโฟร์(เครื่องเป่าปอด)ต่อที่บ้าน  ผู้ป่วยมาตามนัดทุกครั้งมีอาการดีขึ้น  ไม่ไอ  เหนื่อยเป็นบางครั้ง  ยังรับยาวัณโรคต่อเนื่องที่โรงพยาบาลและได้รับยาวัณโรคจำนวนลดลงหลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 3 เดือน

สรุป : การประเมิน คัดกรองและการวินิจฉัยโรคผู้ป่วยวัณโรคปอดที่ถูกต้องและแม่นยำ  รวดเร็ว  ทำให้ผู้ป่วยวัณโรคปอดได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพปอดอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดภายหลังและช่วยลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตได้  ดังนั้นพยาบาลจึงจำเป็นต้องมีความรู้  ทักษะความชำนาญและต้องมีแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยที่เป็นมาตรฐาน  การดูแลแบบองค์รวม เพื่อให้ผู้ป่วยวัณโรคปอดผ่านภาวะวิกฤตกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-12-24