ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และทัศนคติต่อพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียของบุคลากรโรงพยาบาลชลบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียของบุคลากรโรงพยาบาลชลบุรีและศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และทัศนคติต่อพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียของบุคลากรโรงพยาบาลชลบุรี กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรโรงพยาบาลชลบุรีที่มีระยะเวลาปฏิบัติงาน 1 ปีขึ้นไป จำนวน 387 คน เครื่องมือวิจัยที่ใช้ในการวิจัยผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาและหาค่าความเที่ยงแบบสอบถามความรู้โดยใช้ KR20 เท่ากับ 0.58 หาค่าความเที่ยงแบบสอบถามทัศนคติและพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียโดยสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.78, และ0.82 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียด้วยการถดถอยโลจิสติค (logistic regression analysis)
ผลการวิจัย ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และทัศนคติต่อพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียของบุคลากรโรงพยาบาลชลบุรี พบว่าบุคลากรโรงพยาบาลชลบุรีมีความรู้การจัดการน้ำเสียอยู่ในระดับปานกลาง (คะแนนเต็ม 100 ค่าเฉลี่ย 73.99 SD ± 13.30) มีทัศนคติการจัดการน้ำเสียอยู่ในระดับมาก (คะแนนเต็ม 5 ค่าเฉลี่ย 3.86 SD ± 0.44) มีพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียอยู่ในระดับดี (คะแนนเต็ม 4 ค่าเฉลี่ย 3.74 SD ± 0.47) ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการจัดการน้ำเสียที่ดี (คะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 3.01 ขึ้นไป) ได้แก่ ความรู้การจัดการน้ำเสียที่ดี (คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป) และทัศนคติการจัดการน้ำเสียระดับมาก (คะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป) คิดเป็น odds ratio 3.84 และ 2.94 เท่าตามลำดับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (* p-value <0.05)