วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru
<p><strong>HUSO Journal of Humanities and Social Sciences</strong><br /><strong>คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร</strong></p> <p> วารสาร HUSO เป็นวารสารวิชาการราย 6 เดือน จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และผลการศึกษาวิจัยในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดยมุ่งหวังที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้คณาจารย์ นักวิชาการ และผู้สนใจทั่วไป ได้มีเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับเครือข่ายทางวิชาการทั้งภายในและภายนอกประเทศ</p> <p> กองบรรณาธิการยินดีรับพิจารณาบทความวิชาการจากนักวิชาการทุกท่าน โดยบทความทุกเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์จะผ่านกระบวนการประเมินคุณภาพโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ท่าน จากหลากหลายสถาบัน ผ่านระบบการประเมินแบบ <strong>Double-blind Peer Review</strong> ซึ่งผู้ประเมินและผู้เขียนจะไม่ทราบชื่อหรือข้อมูลของกันและกัน</p> <p> ทั้งนี้ บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว มิได้สะท้อนถึงความคิดเห็นของกองบรรณาธิการหรือคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครแต่อย่างใด รวมถึงไม่ครอบคลุมถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการจัดพิมพ์</p> <p> วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มุ่งเน้นการเผยแพร่งานวิชาการที่มีความลุ่มลึกทางวิชาการ มีการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ และส่งเสริมองค์ความรู้ใหม่ในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์</p> <p> ทั้งนี้ ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ปี 2568 เป็นต้นไป วารสารขอสงวนสิทธิ์ <strong>ไม่รับพิจารณาตีพิมพ์บทความที่เน้นเพียงการสำรวจความพึงพอใจหรือการมีส่วนร่วม</strong> ซึ่งมีลักษณะเป็นการเก็บข้อมูลเชิงบรรยายหรือสถิติเบื้องต้นโดยไม่มีการวิเคราะห์หรือสังเคราะห์ข้อมูลอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากบทความประเภทดังกล่าวอาจไม่สอดคล้องกับแนวทางและวัตถุประสงค์ของวารสารที่มุ่งเน้นการนำเสนอองค์ความรู้เชิงลึกและข้อค้นพบใหม่ที่มีคุณค่าทางวิชาการ</p> <p> วารสารขอแนะนำให้ผู้เขียนปรับปรุงบทความให้มีการวิเคราะห์เชิงลึก การอภิปรายผลที่เชื่อมโยงกับทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเสนอข้อค้นพบที่มีนัยสำคัญเชิงวิชาการ เพื่อให้ผลงานมีความเหมาะสมและมีศักยภาพในการเผยแพร่ต่อสาธารณะในระดับวิชาการ</p> <p><strong>หมายเหตุ:</strong> กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ส่งคืนบทความต้นฉบับให้แก่ผู้เขียน</p>
Faculty of Humanities and Social Sciences, Phranakhon Rajabhat University
th-TH
วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2586-9450
-
รูปแบบการตั้งถิ่นฐานชุมชนมุสลิมริมคลองรังสิต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/276518
<p>งานวิจัยเรื่อง รูปแบบการตั้งถิ่นฐานชุมชนมุสลิมริมคลองรังสิต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อศึกษารูปแบบการกระจายตัวของชุมชนมุสลิมริมคลองรังสิต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ด้วยวิธีการแปลและวิเคราะห์ข้อมูลจากรูปถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงเวลา ร่วมกับการสนทนากลุ่มผู้นำชุมชน ผลการศึกษาพบว่า ชุมชนมุสลิมริมคลองรังสิตมีรูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ ช่วงปี พ.ศ. 2495 และ พ.ศ.2516 มีรูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบกระจุกตัวตามแนวยาวของถนนและคลองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งลักษณะการตั้งถิ่นฐานดังกล่าวเป็นแบบดั้งเดิมของไทย ส่วนระหว่างปี พ.ศ.2545 ละ พ.ศ.2565 พบว่ารูปแบบการตั้งถิ่นฐานเป็นแบบผสมผสาน ได้แก่ แบบรวมกลุ่มเป็นที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภท และแบบกระจายตัวที่ขยายจุดศูนย์กลางไปตามสถานที่ราชการ โรงพยาบาล มีแหล่งกลางการจ้างงานสำคัญในพื้นที่คือ นิคมอุตสาหกรรม นวนคร แหล่งกลางทางเศรษฐกิจตลาดไทและตลาดไอยรา และเมื่อศึกษาลักษณะการกระจายตัวของชุมชนมุสลิมในอำเภอคลองหลวงแล้ว พบว่ามีลักษณะเป็นจุดค่าการกระจายออกมาในรูปแบบดัชนี เรียกว่า ดัชนีของจุดอื่นข้างเคียงใกล้ที่สุด (Nearest Neighbor Index) โดยชุมชนมุสลิมแก้วนิมิตร และ ชุมชนมุสลิมลำสนุ่น ค่าดัชนีมากกว่า 1 เป็นการกระจายตัวของการตั้งถิ่นฐานแบบปกติ (dispersed) ชุมชนมุสลิมอัลอะลา และชุมชนมุสลิมเจริญอิสลามมีค่าดัชนีน้อยกว่า 1 เป็นการกระจายตัวของการตั้งถิ่นฐานแบบเกาะกลุ่มหรือกระจุกตัว (clustered)</p>
์Nattaporn ํyuangngoen
วรรณพร บุญญาสถิตย์
ศุภิธน์การย์ ระวังวงศา
ฉัตรศิริ กลั่งเนียม
พัลยมน สินหนัง
อนุวัฒน์ คชวรรณ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
1
13
-
รูปแบบเกณฑ์การประเมินประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับคณะ ที่เหมาะสม ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/275748
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับคณะ 2) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์ประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับคณะ และ 3) รูปแบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับคณะที่เหมาะสม กับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครให้ได้คุณภาพ ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสมระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่า 1) เกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับคณะ พบว่า ซึ่งเป็นการดำเนินงานด้านการบริการนักศึกษาในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้มีความเหมาะสมตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย มีการประยุกต์ใช้ให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาท้องถิ่น 2) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์ประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับคณะ พบว่า บุคลากรส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในเกณฑ์ประกันคุณภาพการศึกษา มีการเตรียมความพร้อมในการรับการตรวจประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความร่วมมือในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งมีการสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่และประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้ง และ 3) รูปแบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับคณะที่เหมาะสม กับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร คือ การดำเนินงานตามกระบวนการ PDCA และมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ การมีส่วนร่วม และแรงจูงใจ เป็นการพัฒนากระบวนการบริหารงานของสถานศึกษาบนพื้นฐานการบริหารแบบมีส่วนร่วมทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนส่วนเสียได้รับรับข้อมูลคุณภาพการศึกษาที่เชื่อถือได้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการ เพื่อให้ได้รับการบริการการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างจริงจัง ซึ่งมีผลให้การศึกษาเกิดการพัฒนาอย่างมีคุณภาพและเป็นรูปธรรม</p>
งามพิศ อ้อยแดง
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
14
35
-
การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติดในชุมชนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/279353
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 3) แนวทางสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ชุมชนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ประชากรในการวิจัย ประชาชนในชุมชนเคหะฯ กลุ่มตัวอย่าง 397 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ผู้นำชุมชน 19 คน สถิติที่ใช้ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ x ̅ ค่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T-test F-test และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปตีความ สรุปผลการวิจัย พบว่า 1) การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x ̅= 4.15) 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x ̅= 4.03) 3) การทดสอบสมมติฐาน ปัจจัยส่วนบุคคลต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ไม่แตกต่างกัน และค่าความสัมพันธ์ ปัจจัยด้านการป้องกัน (r=.601**) มีความสัมพันธ์ระดับสูงกับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และ 4) แนวทาง ปัญหายาเสพติดลดน้อยลง เพราะประชาชนร่วมมือกันในการแก้ปัญหา</p>
Wirawan Chantewee
หฤษฏ์ นาคสวน
วิระศักดิ์ ฮาดดา
ณัฏฐา เกิดทรัพย์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
-
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอยของชุมชนในตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/279352
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอย 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอย 3) แนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอยของชุมชนในตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ประชากรในการวิจัย คือ ประชาชนในตำบลเกาะเกร็ด กลุ่มตัวอย่าง 374 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ผู้ใหญ่บ้าน 7 หมู่ จำนวน 7 คน สถิติที่ใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย x ̅ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T-test F-test และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปตีความ สรุปผลการวิจัย พบว่า 1) การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอย โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.47) 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอย โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x ̅ = 4.42) 3) การทดสอบสมมติฐาน ปัจจัยส่วนบุคคลต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะที่ไม่แตกต่างกัน และค่าความสัมพันธ์ พบว่า ด้านการคัดแยก (r=874**) มีความสัมพันธ์ในระดับสูงกับการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอย และ 4) แนวทาง มีการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ และการแสดงความคิดเห็นจะช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยได้อย่างเต็มที่</p> <p> </p>
Sittisak sukkluea
ศุภวิชญ์ สุขสุหรัด
จิรวัฒน์ แย้มมนัส
วิระศักดิ์ ฮาดดา
เมธี ทรัพย์ประสพโชค
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
49
62
-
การมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะมูลฝอยของชุมชนลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ เพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 4 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/279351
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะมูลฝอย 2) ปัจจัย ที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะมูลฝอย แนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ มูลฝอยของชุมชนลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ เพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 4 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ประชากรในการวิจัย คือ ประชาชนในชุมชนลลิลฯ กลุ่มตัวอย่าง 241 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ กรรมการชุมชน 9 คน สถิติที่ใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ x ̅ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test F-test และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหาสรุปและตีความ สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) การมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะมูลฝอย อยู่ในระดับมากที่สุด (𝑥̅ = 4.56) 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะมูลฝอย อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.53) 3) การทดสอบสมมติฐาน ปัจจัยส่วนบุคคลต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ มูลฝอยที่ไม่แตกต่างกัน และค่าความสัมพันธ์ พบว่า ด้านการแก้ปัญหา (r = .594**) มีความสัมพันธ์ระดับสูงกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะมูลฝอย และ 4) แนวทางส่งเสริม คนในชุมชนมีการคัดแยกขยะและกำจัดขยะอย่างถูกวิธี ส่งผลให้ปริมาณขยะในชุมชนลดลง</p>
Wannacha Fueangfung
วิระศักดิ์ ฮาดดา
วชิรวิทย์ วิชาสวัสดิ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
63
78
-
การจัดทำฐานข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น : กรณีศึกษาตำบลดงละคร
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/254700
<p> การจัดทำฐานข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น : กรณีศึกษาตำบลดงละคร มีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงพื้นที่ทางด้านกายภาพและสร้างฐานข้อมูลระดับตำบลในพื้นที่ตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ด้วยระบบภูมิสารสนเทศ รวมทั้งประเมินผลการใช้งานและความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบฐานข้อมูลระดับตำบลในพื้นที่ตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก โดยข้อมูลที่ทำการรวบรวมและจัดไว้เป็นฐานข้อมูลประกอบด้วย ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศ ธรณีวิทยา ลักษณะดิน และเส้นทางน้ำ ซึ่งจากการประเมินของผู้ใช้งานพึงพอใจต่อการแสดงผลของระบบฐานข้อมูลเป็นอันดับแรก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 โดยมีความพึงพอใจที่ระดับมากที่สุด อันดับที่สองได้แก่การที่ระบบสารสนเทศนี้สามารถเป็นสื่อในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสาร หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของตำบลดงละครได้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 โดยมีความพึงพอใจที่ระดับมากที่สุด และอันดับที่สามได้แก่ฐานข้อมูลสามารถใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 โดยมีความพึงพอใจที่ระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจในภาพรวมของระบบเฉลี่ย 4.40 โดยมีความพึงพอใจที่ระดับมาก</p>
anuwat kochawan
ณัฐพร ยวงเงิน
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
79
90
-
พลิกโฉมบริการห้องสมุด
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/husojournalpnru/article/view/279771
<p>บทความนี้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงของบริการห้องสมุดในยุคปัจจุบัน โดยเน้นกลยุทธ์ในการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านการออกแบบบริการให้สอดคล้องกับประเภท เป้าหมาย และบริบทของผู้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายและพึงพอใจ ห้องสมุดในยุคปัจจุบันต้องสามารถรองรับความหลากหลายในการใช้งาน โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญของการฝึกอบรมบุคลากรห้องสมุดเพื่อพัฒนาทักษะทั้งด้านเทคโนโลยีและการบริการผู้ใช้ การออกแบบพื้นที่ห้องสมุดต้องรองรับการทำงานร่วมกัน การเรียนรู้ และนวัตกรรม เช่น การจัดพื้นที่ทำงานร่วมกันและการจัดกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ เช่น เวิร์กช็อป การสัมมนา หรือการจัดนิทรรศการ อีกทั้งยังต้องสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ห้องสมุดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ ในอนาคตห้องสมุดจำเป็นต้องกำหนดบทบาทใหม่ในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการจัดการข้อมูล โดยการพัฒนาอย่างยั่งยืนและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ</p>
สุรชาติ พุทธิมา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
2025-07-01
2025-07-01
9 1
91
114