การจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ ให้มีมาตรฐาน 80/80  2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย  3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจและเสนอแนะข้อมูล การจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ผลการวิจัยการวิจัยครั้งนี้ สามารถสรุปผลการวิจัย ดังนี้ 1.  ผลการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบ้านโคก ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่สร้างขึ้นนั้น พบว่า  มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน (E1) 87.78 / (E2) 88.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ปกติ 80/80 2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้หลังใช้ชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบ้านโคก ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนมีอัตราสูงขึ้น โดยมีคะแนนเฉลี่ย () ก่อนการใช้ เท่ากับ 21 หลังการใช้เท่ากับ 35 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่คาดไว้ระดับ 0.05 และค่าเฉลี่ยร้อยละหลังการใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ เท่ากับ 88.17 พบว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่คาดหวังไว้ 3.  ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษาตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบ้านโคก ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พบว่า อยู่ในเกณฑ์ที่โดยรวมแล้วนักเรียนมีความพอใจมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ลำดับที่ 1 ด้านวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ลำดับที่ 2 คือ ด้านเนื้อหา ลำดับที่ 3 คือ ด้านการจัดกิจกรรม   การเรียนรู้ ลำดับที่ 4 คือ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ และลำดับที่ 5 คือ ด้านการัดผลประเมินผล โดยค่าเฉลี่ย () รวมทุกด้าน 4.49 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) รวมทุกด้าน เท่ากับ 0.14