การเปรียบเทียบทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อโดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้วิชาแนะแนวกับการสอนแบบปกติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนวมินทราชูทิศ กรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • กมลชนก พิเชฐภูรี หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • อรนุช ลิมตศิริ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำสำคัญ:

ทักษะการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อ, การสอนแบบปกติ, ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว และเพื่อเปรียบเทียบทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนวกับการสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนนวมินทราชูทิศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายด้วยการจับสลาก คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 เป็นกลุ่มทดลองและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/10 เป็นกลุ่มควบคุม จำนวนห้องเรียนละ 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ และแบบประเมินทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าที (t-test dependent, t-test independent) ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว มีประสิทธิภาพ 82.80/83.07 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2) หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว นักเรียนมีทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) หลังเรียนด้วยการสอนแบบปกติ นักเรียนมีทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ทักษะการตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาแนะแนว สูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-05-17

ฉบับ

บท

บทความวิจัย (Research article)