รูปแบบวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตยในจังหวัดราชบุรี

รูปแบบวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตยในจังหวัดราชบุรี

ผู้แต่ง

  • สมชาย ชูเมือง วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี

คำสำคัญ:

วัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วม, ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตย

บทคัดย่อ

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชน 2) เพื่อศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตย และ 3) เพื่อนำเสนอรูปแบบวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตยในจังหวัดราชบุรี โดยประยุกต์หลักสาราณียธรรม  เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ทั้งหมด 26 รูปหรือคน และการสนทนากลุ่มเฉพาะกับผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 รูป/คน วิเคราะห์เนื้อหา สรุปผล และอธิบายเชื่อโยงความสัมพันธ์วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนาความ

ผลการวิจัยพบว่า 1) วัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชน มีจุดแข็ง คือ มีความรู้และเข้าใจการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย มีส่วนร่วมกิจกรรมทางการเมือง จุดอ่อน คือ บางคนยึดมั่นตัวบุคคลมากกว่าหลักการและเหตุผล ยังมีพฤติกรรมซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง โอกาส คือ จัดอบรมให้ความรู้แก่ประชาชน    สนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วม อุปสรรค คือ ผู้นำต้องการอำนาจและสืบทอดอำนาจ เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคเล็กและนักการเมืองมีพฤติกรรมซื้อเสียง

2) วัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชนแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตย มี  6 ประเด็น คือ ด้านความรับผิดชอบตนเองพึ่งพาตนเอง ด้านเคารพสิทธิผู้อื่น ด้านเคารพความแตกต่าง ด้านความเสมอภาค ด้านเคารพกติกาและยอมรับผล ด้านรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม

3) รูปแบบวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตยในจังหวัดราชบุรี โดยประยุกต์หลักสาราณียธรรม คือ (1) พัฒนาตนเอง(2) พูดคำสัตย์ (3) ตั้งเจตนาดี (4) แบ่งปันผลประโยชน์ (5) มีศีลควบคู่กฎหมาย (6) ยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตย

เอกสารอ้างอิง

คนึงนิตย์ พรหมมินทร์. (2557). “การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของสตรีไทยล้านนาตะวันออก”. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ. ปีที่ 8 (1) : 137-145.

ชาญชัย ฮวดศรี. (2558.) “รูปแบบการส่งเสริมวัฒนธรรมทางการเมืองเชิงพุทธของผู้นำชุมชนจังหวัดขอนแก่น”. รายงานการวิจัย. (ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ธัญธัช วิภัติภูมิประเทศ. (2556). “ความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์”. รายงานการวิจัย. (ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์).

ปฏิมาภรณ์ อรรคนันท์, สัญญาเคณาภูมิ ภักดีโพธิ์สิงห์. (2560). “วัฒนธรรมทางการเมืองกับการพัฒนาประชาธิปไตย” .วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. ปีที่ 8 (2) : 108-130.

พระครูธรรมธรศิริวัฒน์ (สิริวฑฺฒโน),พระสุภาพร เตชะธะโร. (2560). “กระบวนการสร้างสาธารณโภคีธรรม ขององค์กรพุทธศาสนาในประเทศไทย”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ. ปีที่ 4 (1) : 76-87.

พระศิลาศักดิ์ สุเมโธ (บุญทอง). (2562). “ความสัมพันธ์ระหว่างการกล่อมเกลาทางการเมืองกับวัฒนธรรมทางการเมือง”. วารสารปัญญาปณิธาน. ปีที่ 4 (1) : 33-49.

เพิ่มศักดิ์ วรรณยิ่ง, ณัฐวีณ์ บุนนาค, จตุพร บานชื่น. (2559). “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในเขตอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม”. วารสารสหวิทยาการวิจัย: ฉบับบัณฑิตศึกษา. ปีที่ 5 (1) : 150-160.

โยธิน ชัยธิสาร. “ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสาราณียธรรมกับการปฏิบัติงานของบุคลากร สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น”.วารสารสถาบันวิจัยพิมลธรรม, ปีที่ 3 (1) : 243-252.

รุ่งนภา หยงคงเกษมสุข. (2561). “วัฒนธรรมการเมืองปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศไทยประชาธิปไตยการเมืองไทย”. วารสารเศรษฐกิจการเมืองบูรพา. ปีที่ 6 (2) : 69-89.

วีระชัย ขันรุ่ง. (2553). “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในระดับท้องถิ่นเทศบาลในจังหวัดนนทบุรี”วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี. ปีที่ 2 (3) : 44.

ศราวุฒิ วิสาหรม, วชิรวัตติ์ อาริยะสิริโชติ, วนิดา เสาสิมมา. (2562). “การวิเคราะห์การสร่างพลเมืองเพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตยจากฐานราก: กรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม” วารสารการเมืองการปกครอง. ปีที่ 9 (3) : 1-23.

สมพร รุ่งเรืองกลกิจ, อิคฏา โคตนารา, เนตรชนก แก้วจันทา, ชมพูนุท กาบคำบา. (2560). “ทัศนคติของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งต่อเพศภาวะในสังคมไทย”. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. ปีที่ 43 (2) : 84-114.

อุทัย เอกสะพังและไพฑูรย์ อินทศิลา. (2559). “ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลัก สาราณียธรรมของผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช”.วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. ปีที่ 3 (1) : 93-107.

Promgird P. (2014). “Political Culture and Democracy Development in NorthEast Rural Community Area : A Case Study of People in Khambong and Sa-ard Village, Ampure Nampong, Khon Kaen Province” Journal of Humanities, Social Sciences. Vol. 31(3) : 65-66.

ฌานิทธิ์ สันตะพันธุ์, วัฒนธรรมทางการเมืองของไทย : รัฐธรรมนูญที่แท้จริงซึ่งไม่เคยถูกยกเลิก, [ออนไลน์] แหล่งที่มา:http://public-law.net/publaw/view.aspx?id=1014, [4 มีนาคม 2562].

สยามรัฐ, ปัญหาการเมืองไทยมาจาก “ระบบ”หรือ“คน, [ออนไลน์] แหล่งที่มา: https://siamrath.co.th/n/ 29958, [7 พฤศจิกายน 2562].

ปรีชญา ขำเจริญ, “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของภาคประชาชนกับการเลือกตั้ง: ศึกษา เฉพาะกรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี พ.ศ. 2551”, [ออนไลน์] แหล่งที่มา : http://library.senate.go.th/ document/Ext3468/3468772_0002.PDF [4 มีนาคม 2562].

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-02

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย