ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2

ผู้แต่ง

  • กฤติญา ศรีซังส้ม ค.ม.การบริหารการศึกษา
  • กัญภร เอี่ยมพญา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
  • นิวัตต์ น้อยมณี มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์

คำสำคัญ:

องค์การแห่งการเรียนรู้, นัยสำคัญทางสถิติ, สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ด้านการจูงใจ ด้านโครงสร้างองค์การ ด้านวัฒนธรรมองค์การ ด้านบรรยากาศที่ส่งเสริมสนับสนุนของสถานศึกษา (2) ศึกษาระดับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา (3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ศึกษากับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา และ (4) ศึกษาปัจจัยส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 จำนวน 302 คน ได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ด้านวัฒนธรรมองค์การ ด้านบรรยากาศที่ส่งเสริมสนับสนุน ด้านการจูงใจ และด้านโครงสร้างองค์การ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก 2) องค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 ด้านแบบแผนความคิด ด้านความรอบรู้แห่งตน ด้านการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ และด้านการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก  3) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ด้านการจูงใจ ด้านโครงสร้างองค์การ ด้านวัฒนธรรมองค์การ ด้านบรรยากาศที่ส่งเสริมสนับสนุนกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 มีความสัมพันธ์ในทางบวกที่ระดับมากที่สุด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) ปัจจัยด้านบรรยากาศที่ส่งเสริมสนับสนุน ปัจจัยด้านด้านวัฒนธรรมองค์การ ปัจจัยด้านการจูงใจ และปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สามารถร่วมกันพยากรณ์องค์การแห่งการเรียนรู้ ได้ร้อยละ 84.60

เอกสารอ้างอิง

กชนันท์ ศุขนิคม. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว. (2535). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่6). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

เปรมศิริ เนื้อเย็น. (2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.

พรรษา ไพรเลิศ. (2557). ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์.

พิณสุดา สิริธรังศรี. (2555). การรู้สารสนเทศและกลไกการเรียนรู้ในยุคโลกาภิวัฒน์. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหาร มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

ราชกิจจานุเบกษา. (2546). พระราชกฤษฎีกาว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546. เล่ม 120/ตอนที่ 100ก/หน้า 1/9 ตุลาคม 2546.

รูสนานี ยาโม. (2555). ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาในสามจังหวัดชายแดน. ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

วรรณะ บุษบา. (2553). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยสยาม.

สันติธร ภูริภักดี. (2563). การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ [ออนไลน์]. เข้าถึงข้อมูล วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563. จาก www.tci-thaijo.org.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2. (2563). สารสนเทศทางการศึกษา. ชลบุรี: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580). กรุงเทพฯ: พิมพลักษณ์.

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560. ชลบุรี: สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.

สุภาวดี ลาภเจริญ. (2561). ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Avolio, J. & Bernard M. (1999). ‘Transformational Leadership, Charisma, and Beyond’. In J.G., Hunt et al. (Eds.) Emerging Leadership vistas. Lexington Books.

Best, J. W. & Khan, J. V. (1993). Research in Education (7th ed.). Boston: Allyn Bacon. Cengage Learning International Student Edition.

Goh M. and Pinaikul P. (1998). “Logistics management practices and development in Thailand.” Logistics Information Management 11, 6: 359-369.

Hoy, W. & Miskel, C. (2001). Educational Administration: Theory, Research and Practice (6th ed.). New York: McGraw-Hill.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determination sample size for research activities. Education and Psychology Measurement.

Reece, P. D. (2004). Universities as Learning Organizations: How can Australian Universities become Learning Organization?. Unpublished Doctoral Dissertation, Murdoch University.

Senge, P. M. (1990). The Fifth Discipline: The Art and Practice of the Learning. Organization. New York: Doubleday.

Senge, P. M. (2000). The fifth discipline: The art and practice of the learning organization, London: Random House.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-06-19