การศึกษาและแนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของครู ในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายลมทวนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม
คำสำคัญ:
แนวทางการพัฒนาการบริหาร, การบริหารจัดการแหล่งโรงเรียนรู้, กลุ่มเครือข่าย, เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงครามบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของครูในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายลมทวนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม มี 4 ขั้น 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของครูในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายลมทวนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม มี 5 ด้าน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือผู้บริหารโรงเรียนและครูในกลุ่มเครือข่ายลมทวน จำนวนผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 7 คน และครูจำนวน 103 คน ผู้วิจัยกำหนดขนาดตัวอย่างจากการเปิดตารางสำเร็จรูปของ Krejcie & Morgan ผู้วิจัยได้สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายเพื่อหาสัดส่วนแต่ละโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 และแบบสัมภาษณ์แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของครูโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายลมทวนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม โดยรวมมีการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย เมื่อพิจารณาเป็นรายขั้น พบว่า ขั้นการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งเรียนรู้มีการดำเนินงานระดับมาก ค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือขั้นการดำเนินงานการใช้แหล่งเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ย ส่วนขั้นที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือขั้นการวางแผนการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ย 2) แนวทางการพัฒนาบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของครูโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายลมทวนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม ในด้านสร้างความรู้ความเข้าใจ ด้านการการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน ด้านการจัดทำแผนไปสู่การปฏิบัติ ด้านการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผน ผู้บริหารโรงเรียนทุกโรงเรียนมีการดำเนินงานในโรงเรียนของตัวเองทุกด้าน ส่วนด้านการสนับสนุนงบประมาณจะมีโรงเรียน วัดโรงธรรมมิตรภาพที่ 70 โรงเรียนวัดคู้สนามจันทร์ โรงเรียนวัดปากลัด โรงเรียนวัดจันทร์เจริญสุข มีหน่วยงานส่วนกลางสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากร ส่วนโรงเรียนเมืองสมุทรสงคราม โรงเรียนวัดช่องลม ไม่มีงบประมาณส่วนกลางมาช่วย การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ ในการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ให้ประสบผลสำเร็จผู้บริหารโรงเรียนควรมีการวางแผนให้รอบคอบและให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ ควรจัดทำระบบรวบรวมข้อมูลสารสนเทศในการวางแผนการใช้ใช้แหล่งเรียนรู้เพื่อใช้ในกลุ่มสาระให้เพียงพอโรงเรียนควรมีการกำหนดบุคลากรและกรรมการรับผิดชอบแหล่งเรียนรู้โรงเรียนควรมีการบริการให้คำแนะนำปรึกษาในการใช้แหล่งเรียนรู้ควรมีการกำหนดแนวทางในการแก้ไขและพัฒนาแหล่งเรียนรู้หน่วยงานส่วนกลางควรมีงบประมาณและสนับสนุนทางโรงเรียนอย่างเพียงพอ จึงจะทำให้ มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน
เอกสารอ้างอิง
กัลยา น้อยพญา. (2552). การบริหารการใช้แหล่งเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนทุ่งพร้าวสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2. การศึกษาค้นคว้าอิสระ (การบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย).
กญัวรา วงศ์ธิดา.(2553). รูปแบบการใช้แหล่งการเรียนรู้ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนแม่โถ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ประยูร รักษ์กำเหนิด. (2557). แนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้. เข้าถึงได้จากwww.gotoknow.org/posts/341902
พรรณี เสี่ยงบุญ. (2555). การพัฒนาการดำเนินงานเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษาเพื่อจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โรงเรียนบ้านหนองบัวคู อำเภอนาดูน สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามหาสารคาม เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2551). การบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขันพื้นฐาน. ศูนย์หนังสือ: มหาวิทยาลัยทักษิณ
สุทธิพงศ์ บุญผดุง. (2558). การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครนายก. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
สมพร พีรวงศ์. (2551). การจัดแหล่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). เชียงราย : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2544). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ ที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2544). การใช้แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและชุมชน. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภา
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว