แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา ของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ:
บริหารจัดการ, วิจัยนวัตกรรม, สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2)เพื่อเปรียบเทียบสภาพการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานีจำแนกตาม ระดับการศึกษาประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และตำแหน่งหน้าที่ 3)เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะที่มีต่อสภาพการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ4) เพื่อเสนอแนวทางในการพัฒนาการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ในสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 214 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.924 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า สภาพการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก การเปรียบเทียบการบริหารจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในแต่ละด้าน ไม่แตกต่างกัน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้เสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการดังนี้ โครงสร้างการบริหารงานในรูปแบบคณะกรรมการบริหารจัดการ งานวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ระดับสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการที่กำกับดูแลระดับนโยบายและการบริหารจัด มีการกำหนดเป็นนโยบาย พันธกิจ กลยุทธ์ และแผนงานโครงการ ให้ชัดเจนเพื่อนำสู่การปฏิบัติ สอดคล้องกับนโยบายของประเทศ ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาครู ด้านการวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ อย่างต่อเนื่อง ควรขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานอื่น ๆ เพิ่มเติมในการต่อยอด ขยายผล พัฒนาสู่เชิงเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). มาตรฐานการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2561. กรุงเทพมหานคร.
ณัฐนันท์ ชุมแก้ว. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์สู่ความเป็นเลิศ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น.
ธวัชไชย ลิ้มสุวรรณ และปรีชา วิหคโต. (2563). การพัฒนาระบบการบริหารสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมอาชีวศึกษาสู่เชิงพาณิชย์ ในยุคดิจิทัลด้วยแพลตฟอร์ม. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร. 8(2) : 459-473.
พลฤทธิ์ จินดาหลวง. (2562). [ออนไลน์]. การพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อน นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางสู่มาตรฐานการอาชีวศึกษาด้วย 6M และ PDCA. [สืบค้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563]. จาก http://lampangvc.ac.th/2021/news/1674.
สองเมือง กุดั่น และเสาวนีย์ สิกขาบัณฑิต. (2564). รูปแบบการบริหารจัดการโครงการสู่สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา ด้านการประกอบอาชีพของสถาบันอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(5): 305-320.
สิรวิชญ์ ธนเศรษฐ์วงศ์. (2562). กลยุทธ์การบริหารจัดการสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เพื่อพัฒนาศักยภาพสู่วิทยาลัยนวัตกรรม. วารสารวิชาการสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคใต้ 1 สุราษฎร์ธานี.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ. กรุงเทพมหานคร.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561. กรุงเทพมหานคร.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). วิสัยทัศน์และพันธกิจของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. กรุงเทพมหานคร.
สำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา.(2564). การจัดการด้านวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา. (25 ธันวาคม 2564). สืบค้นจาก https://ver.vec.go.th/.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว