ผลการปฏิบัติการดูแลในระยะที่ 3 และ 4 ของการคลอดตามหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อปริมาณการสูญเสียเลือดในผู้คลอดครรภ์แรก

ผลการปฏิบัติการดูแลในระยะที่ 3 และ 4 ของการคลอดตามหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อปริมาณการสูญเสียเลือดในผู้คลอดครรภ์แรก

ผู้แต่ง

  • พัชร์ลดา ธำรงกาญจน์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
  • รัศมี ศรีนนท์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี

คำสำคัญ:

คำสำคัญ: การดูแลในระยะที่ 3 และ 4, หลักฐานเชิงประจักษ์, ปริมาณการสูญเสียเลือด

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบกึ่งทดลองด้านล่างเพื่อศึกษาผลการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ 3 และ 4 ของการเกิดตามหลักฐานเชิงสำรวจต่อปริมาณเลือดในผู้คลอดครรภ์แรก ผู้วิจัยพัฒนาแนวพยาบาลตามกรอบแนวคิดที่ผู้วิจัยรวบรวม ขึ้นการดำเนินการวิจัย 4 ระยะการเปิดเผย ระยะที่ 1 การศึกษาหลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการดูแลส่วนบุคคลที่ 3 และ 4 ระยะที่ 2 การพัฒนาการปฏิบัติการดูแล ระยะที่ 3 ประกาศแนวทางปฏิบัติ ระยะที่ 4 เป็นส่วนสำคัญของการแบ่งกลุ่มตัวอย่างที่ควบคุม 70 รายการและกลุ่มทดลอง 70 รายได้รับการดูแลรักษาสำหรับการออกแบบไว้องค์ประกอบการวิจัยรวมถึง 1. การศึกษาการปฏิบัติการดูแลส่วนบุคคลที่ 3 และ 4 ตามหลักฐานเชิงสำรวจ 2. แบบบันทึกข้อมูล 3. แบบวัดความรู้ และข้อมูลวิจัยและวิจัย การปฏิบัติดูแลส่วนบุคคลที่ 3 และ 4 ตามหลักฐานเชิงประจักษ์ 4.แบบประเมินความต้องการของพยาบาลทางการแพทย์ สถิติจำนวนมากการวิจัยโดยมีระบบควบคุมจำนวนมากเพื่อรองรับมาตรฐานและปริมาณโปรตีนในผู้คลอดระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมใช้สถิติ t-test

          ผลการวิจัยพบว่าเมื่อเปรียบเทียบปริมาณโปรตีนในเลือดจะได้กันโดยกลุ่มควบคุมการดำเนินการในการสูญเสียเลือดมากกว่ากลุ่มทดลองทางสถิติที่ระดับ p-value < 0.05 ส่วนความรู้ที่เก็บข้อมูลการปฏิบัติการดูแลใน ระยะที่ 3 และ 4 ตามหลักฐานเชิงประจักษ์และการร้องขอของพยาบาลเป็นพิเศษมากที่สุดที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาแนวปฏิบัติเพื่อต่อต้านการตกเลือดหลังคลอด

เอกสารอ้างอิง

ชญาภรณ์ เอกธรรมสุทธิ์ และเกสร สุวิทยะศิริ. (2562). การพยาบาลในระยะคลอด. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข, สถาบันพระบรมราชชนก, โครงการสวัสดิการวิชาการ.

ทิพวรรณ์ เอี่ยมเจริญ. (2560). การตกเลือดหลังคลอด : บทบาทสำคัญของพยาบาลในการป้องกัน.สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร. 6(2) : 146-157

นววรรณ มณีจันทร์ และอุบล แจ่มนาม. (2560). ศึกษาประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกเพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอดในระยะแรก โรงพยาบาลราชบุรี. วารสารวิชาการแพทย์ เขต 11. (31) : 143–55.

นันทพร แสนศิริพันธ์ และสุกัญญา ปริสัญญกุล. (2558). การพยาบาลในระยะคลอด : แนวคิดทฤษฎี สู่การปฏิบัติ. เชียงใหม่ : โครงการตำรา คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

นันทพร แสนศิริพันธ์ และ ฉวี เบาทรวง (บรรณาธิการ). (2560). การพยาบาลและการผดุงครรภ์:สตรีที่มีภาวะแทรกซ้อน. เชียงใหม่: สมาร์ทโคตรติ้ง แอนด์ เซอร์วิส.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น.

ปิยะนุช ชูโต. (2562). การพยาบาลและการผดุงครรภ์ :สตรีในระยะคลอดและหลังคลอด. เชียงใหม่:คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บริษัท สมาร์ทโคตติ้งแอนเซอร์วิส จำกัด.

ประภาพร สู่ประเสริฐ, ฉลอง ชีวเกรียงไกร, เฟื่องลดา ทองประเสริฐ, ทวิวัน พันธศรี (บรรณาธิการ) (2558). สูตินรีเวช เชียงใหม่ทันยุค. เชียงใหม่: จรัสธุรกิจการพิมพ์.

พรทิพย์ เรืองฤทธิ์. (2560). ผลลัพธ์ของการกดมดลูกส่วนล่างภายหลังรกคลอดทันทีร่วมกับการคลึงมดลูกเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในผู้คลอดปกติ. งานประชุมวิชาการระดับชาติ นเรศวรวิจัย ครั้งที่ 13: วิจัยและนวัตกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม; 20-21 กรกฎาคม 2560; มหาวิทยาลัยนเรศวร.

พัชร์ลดา ธำรงกาญจน์, วรรณี เดียวอิศเรศ และตติรัตน์ เตชะศักดิ์ศรี. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติการดูแลการคลอดปกติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ของพยาบาลห้องคลอด. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 27(1) : 42-49.

ฟองคำ ติลกสกุลชัย. (2551). การปฏิบัติการพยาบาลตาม หลักฐานเชิงประจักษ์ หลักการและวิธีปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: พรี-วัน.

มณีภรณ์ โสมานุสรณ์. (2562). การพยาบาลสูติศาสตร์ เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 15. นนทบุรี.

มาลีวัล เลิศสาครศิริ. (2562). การพยาบาลสตรีในระยะตั้งครรภ์และระยะคลอด. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัทจามจุรีโปรดักส์.

ราชกิจจานุเบกษา. (2564). ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2564. เข้าถึง https://www.tnmc.or.th/images/userfiles/files/T_0028.PDF

ลัดดาวัลย์ ปลอดฤทธิ์, สุชาตา วิภวกานต์, อารี กิ่งเล็ก. (2559). การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในห้องคลอด โรงพยาบาลกระบี่. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. (3) : 127-41.

วีรวรรณ ภาษาประเทศ. (2556). การพยาบาลระยะคลอด. นนทบุรี : โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนกกระทรวงสาธารณสุข.

ศศิธร พุมดวง. (2556). สูติศาสตร์ระยะคลอด. พิมพ์ครั้งที่ 4. สงขลา : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

สินินาฎ หงส์ระนัย. (2563). ระยะตั้งครรภ์ คลอด และ หลังคลอด : การพยาบาล. กรุงเทพมหานคร : แดเน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น

สินินาฎ หงส์ระนัย. (2555). การพยาบาลในระยะคลอด: หลักฐานเชิงประจักษ์จากงานวิจัย.กรุงเทพมหานคร : แดเน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น.

สุธิต คุณประดิษฐ์. (2560). การจัดการเชิงระบบเพื่อลดการตายมารดา : การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการสืบสวนสาเหตุการตายมารดาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการหาแนวทางป้องกันและลดการตายมารดาในระดับประเทศ 23-24 มีนาคม 2560. กรมอนามัย. กรุงเทพฯ: กรมอนามัย.

Ann E., Janice M. A., Patricia F. (2017). Postpartum Hemorrhage: Prevention and Treatment. American Family Physician. 95(7) : 442-449.

Angela H, Andrew D W, Dame T L. (2015).Is accurate and reliable blood loss estimation the crucial step' in early detection of postpartum hemorrhage: an integrative review of the literature. BMC Pregnancy Childbirth; 15 : 1-9.

Cohen, J. (1992). A power primer. Psychological Bulletin, 112(1) : 155– 159.

Cunningham F.G., Leveno K.J., Dashe J.S., Hoffman B.L., Spong C.Y., Casey B.M., et al. (2022). Williams obstetrics. 26th ed. New York: McGraw- Hill.

Estrada, N. (2009). Exploring perceptions of a learning organization by RNs and relationship to EBP beliefs and implementation in the acute care setting. Worldviews on Evidence-Based Nursing, 6(4) : 200-209.

Famutimi, E. O. (2015). Reflective practice: Implication for nursing. Journal of Nursing and Health Science, 4(3) : 28-33

Eman W. I., Ragaa A. A., Amal A.O., Afaf M.E., (2018). Nursing Care of The Third and Stages of Labor. Protocol Of Care.Egyptian Journal of Health Care (EJHC), 9(1) : 16-24.

Hancock A, Weeks A D, Lavender D T. (2015).Is accurate and reliable blood loss estimation the 'crucial step' in early detection of postpartum hemorrhage: an integrative review of the literature. BMC Pregnancy Childbirth; 15 : 1-9.

World Health Organization. (2009). Guidelines for the management of postpartum hemorrhage and retained placenta. Available from: http://apps.who.int/iris /bitstream/handle/10665/44171/9789241598514_eng.pdf;jsessionid=AF6A3FDE67D5ED57146C8BFC1B2CBF7B?sequence=1.

World Health Organization. (2012). WHO recommendations for the prevention and treatment of postpartum hemorrhage. Available from: https://www.who.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-02

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย