วารสารข่วงผญา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/khuangpaya
<p>วารสารข่วงผญา มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอบทความวิจัยและบทความวิชาการ ทางด้านสหสาขาวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยจำแนกตามกลุ่ม ดังต่อไปนี้ </p> <p>- มานุษยวิทยา<br />- สังคมวิทยา<br />- ประวัติศาสตร์<br />- พัฒนาชุมชน<br />- โบราณคดี<br />- ปรัชญาและศาสนา<br />- ภาษาศาสตร์และวรรณกรรม<br />- ศิลปะและวัฒนธรรม<br />- การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม<br />- ภูมิปัญญา<br />- ดนตรีศึกษา<br />- ศิลปกรรม<br />- ภาษาวัฒนธรรม<br />- ดนตรี ,และนาฏศิลป์<br />- การเมืองการปกครอง และกฎหมาย<br />- สหวิทยาการจัดการเรียนรู้</p> <p>วารสารข่วงผญา ตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม ISSN 2539-6706 (Print) ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2549 ต่อมาได้พัฒนาเป็นวารสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ISSN 2985-1475 (Online) ทั้งนี้เพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อค้นพบ ข้อคิดเห็นทางวิชาการ และวิจัยแก่นักวิชาการ อาจารย์ นักศึกษา นักวิจัย ตลอดจนบุคคลทั่วไป ทั้งชาวไทย และต่างประเทศที่มีความสนใจทางด้านสหสาขาวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง<span class="x193iq5w xeuugli x13faqbe x1vvkbs x1xmvt09 x1lliihq x1s928wv xhkezso x1gmr53x x1cpjm7i x1fgarty x1943h6x xudqn12 x3x7a5m x6prxxf xvq8zen xo1l8bm xzsf02u x1yc453h" dir="auto">ได้ดำเนินการจัดทำภายใต้เกณฑ์คุณภาพของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI) และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเข้าสู่</span>การประเมินคุณภาพวารสารวิชาการในฐานข้อมูล TCI</p> <p>ปัจจุบันวารสารข่วงผญา ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จึง<em>ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์บทความ</em></p> <p>ทั้งนี้ ทุกบทความจะต้องผ่านการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความ 3 ท่าน แบบผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่ง ไม่ทราบชื่อกันและกัน <span style="font-size: 0.875rem;">(Double-blind peer review)</span></p>
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
th-TH
วารสารข่วงผญา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
2539-6706
<p>1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “วารสารข่วงผญา” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ <br>2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ</p>
-
การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนในวิถีคนกับช้าง บ้านแม่ตะมาน ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/khuangpaya/article/view/277799
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนาการท่องเที่ยวในวิถีชีวิตคนกับช้างของชุมชน บ้านแม่ตะมาน ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) จากกลุ่มตัวอย่างในชุมชนบ้านแม่ตะมาน จำนวน 10 คน และวิเคราะห์เชิงพรรณาความ</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า บริบทชุมชนด้านการท่องเที่ยวในวิถีชีวิตคนกับช้างของชุมชน เกิดจากการพาลูกค้า ไปเที่ยวยังปางช้างต่าง ๆ และปางช้างยังไม่มีการสร้างมาตรฐานใด ๆ นักท่องเที่ยวจึงมีความกังวลสูง ดังนั้น จึงคิดสร้างปางช้างที่ได้มาตรฐานสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวได้ ศักยภาพของชุมชนที่มีต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยนำมาวิเคราะห์ SWOT ดังนี้ จุดแข็ง คือ ภายในชุมชนสภาพแวดล้อมมีความหลากหลายที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว จุดอ่อน คือ การสื่อภาษาของพนักงาน โอกาส คือ การร่วมกันกับนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ในการศึกษาวิจัย อุปสรรค คือ สถานการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจ และระยะทางที่ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมือง โดยมีแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยว คือ ชุมชนต้องสนับสนุนและส่งเสริมวัฒนธรรมในชุมชนเพื่อไม่ให้จางหายไป และต้องเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนเอง</p>
จิระปรียา ดาราพันธ์
มณฑิรา ทิพไทแก้ว
ปิยวรรณ โปธิป้อ
วรัญญา ยองเพชร
ศิริรัตน์ ขัตธิดา
สุภัคพิมล จันทร์ผา
Copyright (c) 2024 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-19
2024-12-19
18 2
1
14
-
แนวทางการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษาวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง บ้านสันป่าเหียงตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/khuangpaya/article/view/277800
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง บ้านสันป่าเหียง ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน กลุ่มตัวอย่าง คือ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง บ้านสันป่าเหียง จำนวน 11 กลุ่ม เครื่องมือ คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับงานวิจัย (SPSS) และนำเสนอผลการวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา โดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน</p> <p>ผลวิจัยพบว่า การดำเนินงานวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง บ้านสันป่าเหียง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.73 (S.D.=0.86) โดยด้านลักษณะของผู้นำกลุ่มเป็นที่มีความรู้และความสามารถที่จะปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มได้ มีความรับผิดชอบ และมีความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ในขณะที่ปัญหาและอุปสรรคในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.87 (S.D.=1.13) โดยเงินทุนในการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนยังไม่เพียงพอ เพราะขาดเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการดำเนินงานของกลุ่ม และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3. (S.D.=0.92) โดยในด้านศักยภาพชุมชนนั้นสามารถส่งเสริมให้ชาวบ้านมีความภาคภูมิใจในสินค้าที่มาจากผลผลิตในชุมชนและนำเอาผลผลิตมาแปรรูปได้ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาชุมชนในทุก ๆ มิติ ไปพร้อมกัน</p>
อังคนา เชียงตา
พณิชา กิติลังการ์
ภรณ์ชนก ปลอดโปร่ง
กาญจนศิริ คำยอง
ณรงค์ศักดิ์ นะสุ
Copyright (c) 2024 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-19
2024-12-19
18 2
15
49
-
การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาสู่อัตลักษณ์ของกาแฟ ชุมชนบ้านปางไฮ ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/khuangpaya/article/view/277803
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาวิวัฒนาการการผลิตกาแฟของชุมชนบ้านปางไฮ และ 2) เพื่อหาแนวทางการยกระดับการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านปางไฮสู่สากล กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ คือประชาชนในหมู่บ้านปางไฮ หมู่ 7 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 10 ครัวเรือน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 10 คน จาก 10 ครัวเรือน วิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเกษตรกรทั้งหมดจำนวน 10 คน โดยจะวิเคราะห์ข้อมูลจากการถอดเทปสัมภาษณ์ของกลุ่มตัวอย่าง และนำมาจัดเรียงข้อมูลและหมวดหมู่ของแต่ละคำถาม</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ในปัจจุบันการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ทรัพยากรหรือผลิตภัณฑ์ในชุมชนมีเพิ่มมากขึ้นแต่ขาดการส่งเสริมขาดการยกระดับของผลิตภัณฑ์ในชุมชน ทำให้การส่งออกผลิตภัณฑ์ในชุมชนมีการส่งออกที่น้อยลงและราคาถูก ต้องการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ในชุมชนให้มีการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์และส่งเสริมด้านการตลาดและการส่งออกของผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเพิ่มมูลค่าของทรัพยากรในชุมชน</p>
จินต์จุฑา ภูริปัญญาวรกุล
ลลิตา โพธาวงค์
กัญญาณัฐ สอนใจ
นวียา สุนารัตน์
ประกายดาว วัณโณ
Copyright (c) 2024 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-19
2024-12-19
18 2
30
40
-
พลวัตวัฒนธรรมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านสันทราย ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/khuangpaya/article/view/280044
<p>การงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความเป็นมาในการผลิตเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมของชุมชน 2) เพื่อรวบรวมและจัดระบบความรู้การผลิตเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมของชุมชน และ 3) เพื่อหาแนวทางส่งเสริมภูมิปัญญาของการผลิตเครื่องปั้นดินเผาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาในชุมชนบ้านสันทราย ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน 11 คน สำหรับเครื่องมือการวิจัย คือ การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) โดยใช้การบรรยายและพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ประวัติความเป็นมาของการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของชุมชนบ้านสันทราย <br>ภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผามีความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2440 โดยสืบทอดมาจากชุมชนบ้านหารแก้ว และชุมชนบ้านวัวลาย นับจากอดีตจนปัจจุบัน จากรุ่นสู่รุ่น 2) การรวบรวมและจัดระบบความรู้การผลิตเครื่องปั้นดินเผามีขั้นตอนวิธีการการผลิตเครื่องปั้นดินเผายังคงยึดถือวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม โดยมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยโลกาภิวัฒน์ด้วยการนำเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรงเข้ามาช่วยในการผลิต และ 3) แนวทางการส่งเสริมภูมิปัญญาของการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของชุมชนมาจากการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ การกระจายข่าวสาร เพื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้บุคคลที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ จึงเป็นอีกลักษณะหนึ่งที่สามารถส่งเสริมอนุรักษ์ภูมิปัญญาเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมของชุมชนบ้านสันทราย ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ด้านการตลาดและการส่งออกของผลิตภัณฑ์ให้</p>
ณภัทสกรณ์ พรหมเทพ
จิรภัทร เวียงอิน
วัศพล ลุงปัน
ปรัชญา ตาจุมปา
เจษฎาภรณ์ สายทอง
นครินทร์ บุตรกุนา
Copyright (c) 2024 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-19
2024-12-19
18 2
41
52
-
ปัญหาและความต้องการสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุ: กรณีศึกษา ชุมชนบ้านเมืองกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
https://so06.tci-thaijo.org/index.php/khuangpaya/article/view/277802
<p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสถานการณ์การจัดสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุในพื้นที่บ้านเมืองกลาง 2) เพื่อศึกษาปัญหาสวัสดิการสังคมของผู้สุงอายุบ้านเมืองกลาง และ 3) เพื่อศึกษาความต้องการสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุบ้านเมืองกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 238 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา</p> <p>ผลวิจัยพบว่า สถานการณ์การจัดสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุในพื้นที่บ้านเมืองกลาง ในภาพรวม<br />อยู่ในระดับมาก คิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.22 โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (รพ.สต.) มีสถานพยาบาลเพื่อบริการผู้สูงอายุที่ต้องรักษาพยาบาลอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง ในขณะที่ปัญหาด้านการจัดสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุ บ้านเมืองกลาง พบว่า ปัญหาด้านผู้สูงอายุ ในภาพรวมอยู่ในระดับน้อยที่สุด คิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.07 โดยผู้สูงอายุ ไม่มีความรู้เรื่องการใช้เทคโนโลยี และความต้องการสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุบ้านเมืองกลาง พบว่า ความต้องการด้านร่างกาย ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 โดยผู้ตอบสอบถามส่วนใหญ่ต้องการให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีและต้องการให้มีประกันสุขภาพ</p>
จารุภัทร จันทร์ฟู
พิยะดา ภูผานนท์
แพรวรุ่ง กาละวิน
ธิมาภรณ์ กรวิภาคำสุข
ธนัญญา งามหน้า
Copyright (c) 2024 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-19
2024-12-19
18 2
53
66