https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/issue/feed Journal of Variety in Language and Literature 2025-08-31T22:47:52+07:00 Assoc. Prof.Dr. Busanoe Triwiset thithatphu@gmail.com Open Journal Systems <p>วารสาร วิวิธวรรณสาร เป็นวารสารด้านภาษาและวัฒนธรรม เกิดขึ้นจากการความร่วมมือของนักวิชาการจากหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เป็นวารสารรายสี่เดือน โดยกำหนดตีพิมพ์ปีละ 3 ฉบับ ได้แก่</p> <p>ฉบับแรกอยู่ในเดือน มกราคม- เมษายน ฉบับที่สองอยู่ในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมและฉบับที่สามอยู่ในเดือน กันยายน-ธันวาคม</p> <p>กองบรรณาธิการวารสารเปิดรับต้นฉบับบทความวิจัย บทความวิชาการ และบทวิจารณ์หนังสือ เพื่อพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ตามข้อกำหนดของวารสาร โดยมีขอบเขตเนื้อหาครอบคลุมสาขาทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ดังนี้ ภาษาไทย วรรณคดีไทย คติชนวิทยา ภาษาศาสตร์ การสอนภาษา และ ภาษาเพื่อการสื่อสาร</p> <p>บทความที่ส่งให้วารสารเพื่อพิจารณาตีพิมพ์จะผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับบทความ โดยเป็นการประเมินแบบอำพรางทั้งสองฝ่าย โดยที่ผู้ประเมินและผู้เขียนทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในองค์กรเดียวกัน</p> <p>ทั้งนี้ ผู้เขียนบทความอาจจะได้รับคำแนะนำให้แก้ไขบทความต้นฉบับตามที่ผู้ทรงคุณวุฒินำเสนอ</p> https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/281544 รูปแบบการเลี้ยงดูลูกในภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once (2022) 2025-03-17T16:43:46+07:00 รัตติยากร บัวศรีคำ rattiyagorn.buaseekam@g.swu.ac.th วิริยา ด่านกำแพงแก้ว wiriyad@swu.ac.th <p>งานวิจัยเรื่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการเลี้ยงดูของเอเวลินในภาพยนตร์เรื่อง <em>Everything Everywhere All at Once </em>(2022) โดยใช้ทฤษฎีรูปแบบการเลี้ยงดูของไดอานา บอมรินด์ ในการวิเคราะห์การนำเสนอรูปแบบการเลี้ยงดู ในช่วงแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้เอเวลินซึ่งเป็นคนที่มีความเข้มงวด ใช้การเลี้ยงดูลูกสาวที่ชื่อจอยแบบควบคุมเพราะได้รับอิทธิพลมาจากการเลี้ยงดูแบบชาวเอเชียดั้งเดิม แต่เมื่อเวลาผ่านไปเอเวลินเริ่มตระหนักถึงความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่ลูกสาวของเธอได้รับจากการเลี้ยงดู จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการเลี้ยงดูของเอเวลินที่มีเหตุผลมากขึ้น โดยเน้นความอบอุ่น การสนับสนุนและความเข้าใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างแม่และลูกสาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานรูปแบบการเลี้ยงดูแบบชาวเอเชียดั้งเดิมและชาวอเมริกันเข้าด้วยกัน</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/283750 แบบเรียนภาษาไทยและภาษาลาว: การปลูกฝังอัตลักษณ์วัฒนธรรมผ่านแนวคิดท้องถิ่นนิยม 2025-05-24T10:48:27+07:00 วิเชษฐชาย กมลสัจจะ wichetchay.jm@gmail.com ชญานนท์ ชมดี sinsub.yy@bru.ac.th ชัชศรัณย์ จิตคงคา sinsub.yy@bru.ac.th วรวรรธน์ ศรียาภัย sinsub.yy@bru.ac.th ณประภาพร รุจจนเวท sinsub.yy@bru.ac.th ผกาเพ็ญ จรูญแสง sinsub.yy@bru.ac.th <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะการปลูกฝังอัตลักษณ์วัฒนธรรมผ่านแนวคิดท้องถิ่นนิยมในแบบเรียนภาษาไทยและภาษาลาว โดยใช้หนังสือแบบเรียนภาษาชั้นประถมศึกษาตอนต้นของไทยและลาว จำนวน 8 เล่ม เป็นข้อมูลในการวิจัย ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและนำเสนอด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า แบบเรียนภาษาไทยและแบบเรียนภาษาลาวมีเนื้อหาที่ปลูกฝังอัตลักษณ์วัฒนธรรมผ่านแนวคิดท้องถิ่นนิยม 2 ลักษณะ คือ รูปแบบวัฒนธรรมวัตถุและวัฒนธรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุ โดยเนื้อหาถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเน้นปลูกฝังอัตลักษณ์วัฒนธรรมจากรากฐานความเป็นท้องถิ่น เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงคุณค่าและภาคภูมิใจความเป็นตัวตนของกลุ่มหรือชุมชน รู้สึกต้องการที่จะสืบสานวิถีเหล่านั้น รวมถึงธำรงรักษาสังคมและต่อยอดอัตลักษณ์วัฒนธรรม อย่างไรก็ตามจากการศึกษายังแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปตามบริบทของแต่ละประเทศ เพราะแบบเรียนภาษาถูกผลิตสร้างโดยรัฐ จึงเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่อุดมการณ์ที่รัฐพึงประสงค์อย่างแยบยล โดยเฉพาะแบบเรียนภาษาระดับชั้นประถมศึกษาที่เป็นขั้นแรกของระบบการศึกษาทำให้เยาวชนเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ก่อเกิดสำนักรักท้องถิ่นและประเทศชาติ</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/282813 เจ้าพ่อปลัดจ่างในจังหวัดนครนายก: ลักษณะความเชื่อ พิธีกรรม และ บทบาทหน้าที่เชิงคติชนวิทยา 2025-03-31T11:00:03+07:00 ชลธิชา นิสัยสัตย์ chontichaa2526@gmail.com เอกชัย ไชยดา sinsub.yy@bru.ac.th ไชยะ เทพา sinsub.yy@bru.ac.th <p>บทความนี้ศึกษาการดำรงอยู่ของความเชื่อและพิธีกรรมเกี่ยวกับเจ้าพ่อปลัดจ่างในจังหวัดนครนายก เก็บข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บอกข้อมูลสำคัญ จำนวน 7 คน ระหว่างปี พ.ศ.2567-2568 และข้อมูลภาคสนามในประเพณีทำบุญศาลเจ้าพ่อปลัดจ่าง วันที่ 26 มกราคม 2568 ณ ศาลเจ้าพ่อปลัดจ่าง บ้านหนองเคี่ยม จังหวัดนครนายก ใช้ทฤษฎีบทบาทหน้าที่เป็นแนวทางวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่า เจ้าพ่อปลัดจ่างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพนับถือในอำเภอเมืองและอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก โดยรับรู้ประวัติผ่านความเชื่อที่สืบทอดกันมาผสมผสานกับประวัติที่หน่วยงานรัฐสร้างขึ้น เรื่องเล่าเจ้าพ่อปลัดจ่างแสดงให้เห็นว่าปลัดจ่างเคยมีตัวตนอยู่จริง พื้นเพเป็นชาวนครนายก รับราชการเป็นปลัด มีวีรกรรมสำคัญจากการเป็นผู้ปราบโจรบนเขาใหญ่ หลังจากเสียชีวิต ปลัดจ่างได้รับการยกย่องให้เป็นผีอารักษ์ มีการสร้างศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างขึ้นหลายแห่งเพื่อสักการะบูชา ประกอบพิธีบนบาน แก้บน และมีพิธีทำบุญศาลเจ้าพ่อปลัดจ่าง ทุกวันที่ 26 มกราคม ณ บ้านหนองเคี่ยม อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ชาวนครนายกเชื่อว่า เจ้าพ่อปลัดจ่างเป็นผีอารักษ์ที่คุ้มครองชุมชน ให้ความช่วยเหลือ ปัดเป่าปัญหาเดือดร้อน และเป็นเทพารักษ์คุ้มครองป่า ปัจจุบัน ศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครนายกมีสถานะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงความเชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมบนบานและแก้บน การดำรงอยู่ของเจ้าพ่อปลัดจ่างในบริบทสังคมปัจจุบันจึงมีบทบาทสำคัญ 3 ประการ คือ บทบาทในการสร้างขวัญกำลังใจและตอบสนองความปรารถนาในระดับบุคคล บทบาทศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน และบทบาทส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/279240 การพัฒนานักเล่าเรื่องน้อยชุมชนตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ 2024-11-26T11:30:18+07:00 สินทรัพย์ ยืนยาว sinsub.yy@bru.ac.th ทิพวัลย์ เหมรา thippawan.hm@bru.ac.th <p>งานวิจัยเรื่องการพัฒนานักเล่าเรื่องน้อยชุมชนตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ทุนทางวัฒนธรรมมาพัฒนาหลักสูตรฝึกปฏิบัติการสร้างนักเล่าเรื่องน้อย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่ชุมชนสายตรีพัฒนา 3 และชุมชนสายตรีพัฒนา 7 จำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์ข้อมูลทุนทางวัฒนธรรม หลักสูตรการพัฒนานักเล่าเรื่องน้อย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ E1/E2 ผลการศึกษาพบว่า เทศบาลตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ ต้นผึ้งร้อยรังและพิพิธภัณฑ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ 3,000 ปี วัดป่าพระสบาย สามารถจำแนกเนื้อหาเป็น 6 เรื่อง ประกอบด้วย 1) ประวัติความเป็นมาของชุมชนสายตรีพัฒนา 3 2) ประวัติความเป็นมาของชุมชนสายตรีพัฒนา 7 3) ประวัติและที่มาของต้นผึ้งร้อยรัง ศาลพ่อปู่บุญมาร้อยรัง 4) ประวัติความเป็นมาของประเพณีตีผึ้ง 5) ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ 3,000 ปี วัดป่าพระสบาย และ 6) วัตถุโบราณ ต่าง ๆ ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ส่วนการพัฒนาหลักสูตรนักเล่าเรื่องน้อย มีหน่วยการเรียนรู้ 5 หน่วยการเรียนรู้ จำนวน 15 ชั่วโมง ภายใต้แผนการจัดการเรียนรู้ 10 แผน ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ 87.87/91.22</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/284182 อนุภาคของ “นาค” ในนวนิยายวายแนวแฟนตาซีของไทย 2025-04-29T21:48:19+07:00 นฤพนธ์ สุริฉาย 63010180005@msu.ac.th ปฐม หงษ์สุวรรณ sinsub.yy@bru.ac.th <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอนุภาคของ “นาค” ในนวนิยายวายแนวแฟนตาซีของไทย จากนวนิยายแนววายทั้งหมด 3 เรื่อง ได้แก่ King of nagas บ่วงนาคบาศ และนาคราชวิวาทรัก ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้แนวคิดอนุภาค (Motif) มาใช้ในการวิเคราะห์อนุภาคต่าง ๆ ที่ปรากฏในตัวบท ผลการศึกษาพบว่า อนุภาคของ “นาค” มีลักษณะอนุภาคที่สัมพันธ์กับการสร้างตัวละครชายรักชาย โดยใช้เรื่องเล่าพื้นบ้านและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคมามาสร้างสรรค์เรื่องราวให้มีความแปลกใหม่ ผ่านการประกอบสร้างตัวละคร “นาค” ที่มีการนำเสนออนุภาค แบ่งได้เป็น 4 ประเด็น ได้แก่ 1. อนุภาคตัวละคร พบอนุภาคตัวละครนาคในฐานะพระเอก อนุภาคตัวละครนาคในฐานะนายเอก 2. อนุภาควัตถุสิ่งของ พบอนุภาคศาสตราวุธ อนุภาคสิ่งของวิเศษ และอนุภาคเครื่องประดับและเครื่องราง 3. อนุภาคเหตุการณ์ พบเหตุการณ์ที่สำคัญ ได้แก่ อนุภาคการสมพาสระหว่างมนุษย์กับนาคและอนุภาคการตั้งครรภ์ของเพศชาย ส่วนอนุภาคที่ 4. อนุภาคฉากและสถานที่ ฉากที่พบในนวนิยายวายจะมีอนุภาคฉากปรากฏเป็นเมืองบาดาล อนุภาคฉากป่าหิมพานต์ และอนุภาคฉากเมืองมนุษย์ อีกทั้งฉากที่สร้างบางส่วนเป็นฉากจากสถานที่จริงและฉากที่สร้างจากเรื่องเล่า และฉากที่สร้างจากจินตนาการของนักเขียน อนุภาคต่าง ๆ ล้วนสะท้อนให้เห็นการสร้างสรรค์อนุภาคที่น่าสนใจอันเป็นการสอดประสานกันระหว่างศาสตร์ทางคติชนกับศาสตร์ทางวรรณกรรมในนวนิยายกลุ่มนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษานวนิยายของไทยที่นำเอาตัวละครที่มาจากเรื่องเล่าพื้นบ้านมาเล่าใหม่ให้เกิดความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/283025 ภูมิปัญญาและคุณค่าการผลิตถ่านบ้านชมพูเหนือ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก : การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2025-04-29T21:25:46+07:00 สุชาดา เจียพงษ์ suchada.3009@gmail.com สุกัญญาโสภี ใจกล่ำ sinsub.yy@bru.ac.th <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภูมิปัญญาการผลิตถ่าน บ้านชมพูเหนือ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และเพื่อศึกษาคุณค่าและการใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาการผลิตถ่านในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ บ้านชมพูเหนือ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนาม (Field work) ตำบลชมพูเหนือ อำเภอเนินมะปราง ด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) กับผู้นำชุมชน ผู้มีอาชีพเผาถ่าน และผู้ใช้ถ่านในชุมชน โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structured Interview) สัมภาษณ์ผู้รู้ข้อมูลทั้งหมด 15 คน ผลการวิจัยพบภูมิปัญญาการผลิตถ่าน บ้านชมพูเหนือ อำเภอเนินมะปราง 4 ด้าน ได้แก่ 1) ภูมิปัญญาด้านการเลือกพื้นที่สร้างเตาเผาถ่าน 2) ภูมิปัญญาด้านการเลือกไม้มาใช้เผาถ่าน 3) ภูมิปัญญาด้านการสร้างเตาเผาถ่าน และ 4) ภูมิปัญญาด้านการเผาถ่าน ส่วนคุณค่าและการใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาการผลิตถ่านในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พบคุณค่าและประโยชน์จากภูมิปัญญาการผลิตถ่าน 6 ด้าน ได้แก่ 1) คุณค่าด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ 2) คุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม 3) คุณค่าด้านวัฒนธรรม 4) คุณค่าด้านสาธารณสุข 5) คุณค่าด้านการเกษตร และ 6) คุณค่าด้านเศรษฐกิจ ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย 1) อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชน 2) เพิ่มมูลค่าทรัพยากรในชุมชน และ 3) เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในชุมชน</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/284638 กลวิธีการโน้มน้าวใจในการขายสินค้าออนไลน์: กรณีศึกษา Bebe Fit Routine Shop 2025-07-15T07:15:29+07:00 อุบลรัตน์ เอกอุ ubonrat.a@ku.th ปนันดา เลอเลิศยุติธรรม fhumpdl@ku.ac.th <p> บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กลวิธีการโน้มน้าวใจในการขายสินค้าออนไลน์ของแฟนเพจ Bebe Fit Routine Shop บนเฟซบุ๊ก โดยใช้แนวคิดทฤษฎีวัจนกรรมของ Searle ซึ่งเน้นการใช้ภาษาเพื่อการกระทำ หลักการโน้มน้าวใจของ Cialdini เช่น หลักการขาดแคลน หลักการต่างตอบแทน และแนวคิดการโน้มน้าวใจของอรวรรณ ปิลันธน์โอวาท เป็นกรอบในการวิเคราะห์ ผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลโพสต์จากแฟนเพจ Bebe Fit Routine Shop จำนวน 210 โพสต์ ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ถึง 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ผลการวิเคราะห์พบว่าแฟนเพจ Bebe Fit Routine Shop ใช้กลวิธีการโน้มน้าวใจในการขายสินค้าออนไลน์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งแบ่งได้เป็น 8 กลวิธี ได้แก่ 1) กลวิธีการสร้างความเร่งด่วน 2) กลวิธีการเน้นย้ำผลลัพธ์ 3) กลวิธีการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ 4) กลวิธีการเสนอสิทธิพิเศษ 5) กลวิธีการใช้สัญลักษณ์อิโมจิ 6) กลวิธีการใช้ภาษาพูดและคำสแลง 7) กลวิธีการทำให้เป็นเรื่องเล็กน้อย และ 8) กลวิธีการใช้คำเชิญชวน กลวิธีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ควบคู่กันในหลายๆ โพสต์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการโน้มน้าวใจลูกค้า บทความวิจัยนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือก ใช้กลวิธีการโน้มน้าวใจที่หลากหลายและเหมาะสมกับบริบทในการขายสินค้าออนไลน์ ผลการวิจัยจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ นักการตลาด และนักวิจัยที่สนใจในด้านการตลาดออนไลน์การเพื่อโน้มน้าวใจผู้บริโภค</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/283644 กลวิธีการเล่าเรื่องในนวนิยายเรื่องอันกามการุณย์ 2025-08-02T09:35:24+07:00 สิริพร เชษฐสุราษฎร์ canasasa_@hotmail.com <p>บทความชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลวิธีการเล่าเรื่องและวิธีการประกอบสร้างความหมายผ่านการเล่าเรื่องในนวนิยายเรื่องอันกามการุณย์ของลาดิด พบว่า ในด้านกลวิธีการเล่าเรื่อง นวนิยายเรื่องนี้มีกลวิธีการเล่าเรื่องแบบกระแสสำนึก ด้วยมุมมองสรรพนามบุรุษที่ 1 ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านน้ำเสียงของตัวละครแม่ที่ส่งสารไปยังลูก เสมือนเป็นการอธิบายและเรียบเรียงเรื่องราวผ่านความนึกคิด ด้านการประกอบสร้างความหมาย สะท้อนให้เห็นถึงภาพของมนุษย์ผู้แสวงหาตัวตน ซึ่งความต้องการแสดงออกในตัวตนที่ต้องเป็นขัดแย้งกับความคาดหวังของสังคมและครอบครัว ทำให้รู้สึกกลายเป็นอื่นจึงต้องดิ้นรนแสวงหาพื้นที่ของตนเอง การเล่าเรื่องราวเสมือนการสารภาพความผิดบาปของตนเองที่ต้องการจะเป็นอิสระจากการถูกจำกัดโดยเพศกำเนิดของร่างกายและบทบาทที่ถูกกำหนดโดยสังคม เพื่อใช้ชีวิตอยู่ในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ทำตามความปรารถนาของตนเองได้</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/284547 การศึกษาเชิงวิเคราะห์กฎหมายโบราณจังหวัดพิษณุโลก 2025-05-10T12:33:20+07:00 สมเกียรติ ติดชัย somkiat.t@psru.ac.th <p>บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพและสารัตถะของต้นฉบับตัวเขียนกฎหมายโบราณจังหวัดพิษณุโลก เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยทางเอกสารศึกษาต้นฉบับกฎหมายโบราณ เอกสารจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จำนวน 46 ฉบับ 2,887 หน้าสมุดไทย ซึ่งผู้วิจัยได้ปริวรรตเป็นภาษาไทยปัจจุบัน ผลการศึกษาพบว่า เอกสารทุกฉบับบันทึกลงในสมุดไทยขาว หมึกดำ พบเอกสาร 5 ประเภท พบประเภทสมบูรณ์มากที่สุดจำนวน 18 ฉบับ เอกสารบันทึก 4-11 บรรทัดต่อหน้าสมุดไทย เอกสารบันทึกด้วยคำประพันธ์ 3 ประเภท คือ 1. บันทึกด้วยคำประพันธ์ประเภทร้อยแก้วมากที่สุด จำนวน 30 ฉบับ 2. บันทึกด้วยคำประพันธ์ประเภทร้อยแก้วและร้อยกรอง จำนวน 14 ฉบับ และ 3. บันทึกด้วยคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง จำนวน 2 ฉบับ บันทึกด้วยอักษรและภาษา 3 ประเภท คือ 1. บันทึกด้วยอักษรไทย ภาษาไทยมากที่สุด จำนวน 26 ฉบับ 2. บันทึกด้วยอักษรไทย ภาษาไทย และอักษรขอม ภาษาบาลี จำนวน 19 ฉบับ และ 3. บันทึกด้วยอักษรไทย ภาษาไทย และอักษรไทย ภาษาบาลี จำนวน 1 ฉบับ กฎหมายโบราณจังหวัดพิษณุโลกฉบับที่เก่าที่สุด คือ กฎหมายโบราณวัดกรับพวงเหนือ (3)/0373 บันทึกใน พ.ศ. 2305 ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา มีสารัตถะจำนวน 28 เรื่อง ส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับกฎหมายตราสามดวงในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เช่น พระอัยการเบ็ดเสร็จ ประกาศพระราชปรารภ พระอัยการทาส หลักไชย พระอัยการลักษณะผัวเมีย พระอัยการลักษณะพยาน พระอัยการลักษณะรับฟ้อง พระอัยการลักษณะมรดก เป็นต้น จนสามารถสันนิษฐานได้ว่า กฎหมายโบราณจังหวัดพิษณุโลกได้รับอิทธิพลสำคัญจากกฎหมายตราสามดวง การศึกษาวิจัยครั้งนี้จะเป็นการขยายพรมแดนของการศึกษาเอกสารโบราณภูมิภาคภาคเหนือตอนล่างให้กว้างขวางต่อไป</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/284334 การออกแบบการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านเมืองโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ 2025-05-10T12:37:50+07:00 อัญวีณ์ ธีรสิริพัฒน์ anyaveeee@gmail.com จิรัฐิพร ไทยงูเหลือม sinsub.yy@bru.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างหน่วยการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่ออกแบบ </p> <p>การเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps 2) ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านเมืองโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านเมืองโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 28 คน โดยใช้กลุ่มประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) หน่วยการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่ออกแบบการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps 2) แผนการจัดการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่ผ่านการออกแบบ การเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps จำนวน 13 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลา 13 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัยแบบ 4 ตัวเลือก และ 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากการออกแบบ การเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ ผลการวิจัยพบว่า 1) ได้หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่ออกแบบการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps จำนวน 1 หน่วย ประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 13 แผน สามารถพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ภาพรวมที่ ระดับ 3 2) ความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 14.68 และ 31.75 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 3) นักเรียน มีระดับความคิดเห็นที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.48</p> <p> </p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/286427 ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนอ่านร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดและผังกราฟิกที่มีต่อความสามารถในการอ่านจับใจความและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2025-07-19T05:58:11+07:00 กานต์พิชชา พูลชัย 63920269@go.buu.ac.th คงรัฐ นวลแปง kongrat@buu.ac.th รุ่งฟ้า กิติญาณุสันต์ roongfa@buu.ac.th <p>การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความ และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนอ่านร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดและผังกราฟิกหลังการจัดการเรียนรู้กับเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 โรงเรียนแสนสุข จังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา 2567 จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนอ่านร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดและผังกราฟิก จำนวน 5 แผน มีระดับความเหมาะสมมากที่สุด (= 4.80, <em>SD</em> = 0.20) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความ เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชาภาษาไทย เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.80 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test for one sample) ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนอ่านร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดและผังกราฟิกสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนอ่านร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดและผังกราฟิกสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature https://so06.tci-thaijo.org/index.php/wiwitwannasan/article/view/287983 บทบรรณาธิการ 2025-08-31T11:21:47+07:00 บุณยเสนอ ตรีวิเศษ sinsub.yy@bru.ac.th <p>ปีที่เก้าเล่มยี่สิบหกมิตกสมัย ก้าวต่อไปในวิถีที่สร้างสรรค์ <br />ภาษาวัฒนธรรมมุ่งจำนรรจ์ เหตุด้วยพันธะหน้าที่วิชาการ</p> <p>วารสารวิวิธวรรณสาร (Journal of Variety in Language and literature) เล่มนี้ เป็นปีที่ 9 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2568) เป็นเล่มที่ 26 แล้ว สำหรับการเดินทางของเครือข่าย นักวิชาการด้านภาษาและวัฒนธรรม ในเล่มนี้ มีบทความหลากหลายจำนวน 11 บทความ โดยอาจจัดกลุ่มเนื้อหาได้ 3 กลุ่ม ดังนี้</p> <p><strong>กลุ่มที่เน้นการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณกรรม</strong> ได้แก่ (1) Mothering Styles in Film Everything Everywhere All at Once (2022) (2) แบบเรียนภาษาไทยและภาษาลาว : การปลูกฝังอัตลักษณ์วัฒนธรรมผ่านแนวคิดท้องถิ่นนิยม (3) อนุภาคของ “นาค” ในนวนิยายวายแนวแฟนตาซีของไทย (4) กลวิธีการเล่าเรื่องในนวนิยายเรื่องอันกามการุณย์</p> <p><strong>กลุ่มที่เน้นการศึกษาทางคติชนวิทยา</strong> ได้แก่ (5) เจ้าพ่อปลัดจ่างในจังหวัดนครนายก: ลักษณะความเชื่อ พิธีกรรม และบทบาทหน้าที่เชิงคติชนวิทยา (6) การพัฒนานักเล่าเรื่องน้อยชุมชนตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ (7) ภูมิปัญญาและคุณค่าการผลิตถ่านบ้านชมพูเหนือ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก : การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ (8) การศึกษาเชิงวิเคราะห์กฎหมายโบราณจังหวัดพิษณุโลก</p> <p>และ<strong>กลุ่มที่เน้นการสื่อสารและการสอนภาษาไทย</strong> ได้แก่ (9) กลวิธีการโน้มน้าวใจในการขายสินค้าออนไลน์: กรณีศึกษา Bebe Fit Routine Shop (10) การออกแบบการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านเมืองโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ (11) ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนอ่านร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดและผังกราฟิกที่มีต่อความสามารถในการอ่านจับใจความและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3</p> <p>ขอขอบคุณผู้นิพนธ์ทุกท่านที่ส่งบทความคุณภาพมาให้พิจารณา ทำให้ผู้อ่านได้มีตัวเลือกหลาก หลายในการเลือกอ่านตามความสนใจและความจำเป็นเฉพาะตน</p> <p>สิบเอ็ดบทปรากฏกล้า เชิญค้นหาแก่นวารสาร <br />ปราชญ์ชนยินยลงาน วิจารณญาณคือปัญญา</p> <p> </p> <p>บุณยแสนอ ครีวิเศษ</p> <p>บรรณาธิการ</p> 2025-08-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Journal of Variety in Language and Literature