ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาชีววิทยา และความสามารถในการแก้ปัญหา ของนักศึกษาครู สาขาวิชาวิทยาศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาชีววิทยา และความสามารถในการแก้ปัญหา ของนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ปีการศึกษาที่ 1/2562 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จำนวนทั้งสิ้น 58 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้เวลาจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา 18 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาชีววิทยา และแบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา ซึ่งดำเนินการทดลองแบบกลุมทดลองหนึ่งกลุ่ม วัดผลก่อน และหลังการทดลอง (One group Pretest-Posttest Design) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t ชนิดกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระต่อกัน (t-test Dependent Group)
ผลการวิจัย พบว่า นักศึกษาที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาชีววิทยา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 นักศึกษาที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) มีระดับพัฒนาการทางการเรียนวิชาชีววิทยา อยู่ในระดับพัฒนาการ ระดับสูงมาก คิดเป็นร้อยละ 17.24 ระดับสูง คิดเป็นร้อยละ 31.03 ระดับกลาง คิดเป็นร้อยละ 32.76 และระดับต้น คิดเป็นร้อยละ 18.97 และนักศึกษาที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) มีความสามารถในการแกปัญหาทางการเรียนวิชาชีววิทยา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
สำหรับผู้เรียนระดับประถมศึกษา. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, 8(1), 61-73.
ทิศนา แขมมณี. (2555). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 16. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นิรมิษ เพียรประเสริฐ. (2556). เรียนรู้แบบ STEM ผ่านหุ่นยนต์ : สร้างการมีส่วนร่วมของนักเรียน,
นิตยาสาร สสวท. 42(185), 23-25.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2551). การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิด Socio scientific,
วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2(3), 99-105.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2548). วิธีวิทยาการสอนวิทยาศาสตร์ทั่วไป. กรุงเทพฯ :
พัฒนาคุณภาพวิชาการ.
พรทิพย์ ศิริภัทราชัย. (2556). STEM Education กับการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21, วารสาร
นักบริหาร. 33(2), 159-162.
พรรณี ภูนารี. (2557).ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสไตล์การสอนกับสไตล์การเรียนรู้ที่ส่งผลต่อความสามารถใน
การคิดวิเคราะห์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2557). การคำนวณคะแนนพัฒนาการ (Gain Score). สารสมาคมวิจัย
สังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 1(1), 12-13.
ศศิธร เวียงวะลัย. (2556). การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี. (2556). สะเต็มศึกษา (STEM Education).
กรุงเทพฯ : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี. (2535). ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์.
กรุงเทพฯ : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี.
สุกัญญา ศรีสาคร. (2547). การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการแก้ปัญหาอนาคต. (วิทยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร)
สุทธาวรรณ ภาณุรัตน์. (2553). การเปรียบเทียบพัฒนาการทางทักษะการเขียนเรียงความภาษาไทย
ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างกลุ่มที่ประเมินตนเอง โดยใช้แบบตรวจสอบรายการ
กับแบบสอบถามปลายเปิด. (ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
Ausubel. D. (1968). Educational Psychology, a Cognitive View. New York : Holt,
Rinehart & Winston.
Torrance. P. E. (1962). Education and The Creative Potential. Minneapolis : The Lund
Pres.