โมเดลเชิงเหตุและผลของความเหนื่อยหน่ายในงานของครู
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความตรงของโมเดลเชิงเหตุและผลของความเหนื่อยหน่ายในงานของครูกับข้อมูลเชิงประจักษ์ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 และ 2 จำนวน 556 คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนเครื่องมือ คือ แบบสอบถามใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 5 ตัวแปร ได้แก่ การติดงาน ความเครียดในงาน การคิดเชิงบวก ความเหนื่อยหน่ายในงาน และความพึงพอใจในงาน โดยใช้การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง
ผลการวิจัยพบว่า โมเดลเชิงเหตุและผลของความเหนื่อยหน่ายในงานของครู มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ทั้งนี้การติดงานความเครียดในงาน และความคิดเชิงบวกอธิบายความแปรปรวนในความเหนื่อยหน่ายในงาน ได้ร้อยละ 40.60 โดยความเครียดในงานมีอิทธิพลทางตรงต่อความเหนื่อยหน่ายงานมากที่สุด นอกจากนี้ ความเหนื่อยหน่ายในงานยังมีบทบาทเป็นตัวแปรส่งผ่านระหว่างอิทธิพลของความเครียดในงานกับความพึงพอใจในงาน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กิตติพงษ์ เชี่ยวรุ่งโรจน์. (2548). ความชุก และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเครียดจากการทำงานและภาวะเบื่องานในพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน). (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2553). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
นิภา แก้วศรีงาม. (2547). ความคิดเชิงบวก (Positive Thinking) พึงคิดว่าทุกปัญหามีทางออก ไม่ใช่ทุกทางออกเป็นปัญหา. วารสารวงการครู, 12(1), 76-78.
บุญใจ ศรีสถิตนรากูร. (2555). การพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย: คุณสมบัติการวัดเชิงจิตวิทยา = Development and validation of research instruments: psychometric properties. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภูเมธ แก้วเขียว. (2544). การศึกษาระดับความเครียดและประสิทธิภาพการทำงานของครูการศึกษาพิเศษในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัย มสด. สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 10(1), 60-76.
สมยศ นาวีการ. (2544). การพัฒนาองค์กรและการจูงใจ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ดวงกมล.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2565). สสส. – สธ. ชู โปรแกรมอบรม “สร้างสุขด้วยสติในองค์กร MIO” รูปแบบ e-Learning ภายใต้นวัตกรรมแนวคิด Happy Workplace. เข้าถึงได้จาก https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=31841&msclkid=b28479acd09b11ec96b77a3450aa8081
Bermejo, L., Hernández-Franco, V., & Prieto-Ursúa, M. (2013). Teacher Well-being: personal and job resources and demands. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 84, 1321-1325.
Farager, E. B. Cass, M., & Cooper, C. L. (2005). The relationship between job satisfaction and health: A meta-analysis. Journal of Occupational and Environmental Medicine, 62(2), 105-112.
Hair, J. F., Jr., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data analysis: A global perspective. (7th ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson Education.
Maslach, C., & Leiter, M. P. (1997). The truth about burnout. San Francisco: Jossey-Bass.
_______. (2008). Early predictors of job burnout and engagement. Journal of Applied Psychology, 93(3), 498-512.
Otero-Lopez, J. M. et al., (2010). Exploring Stress, Burnout, and Job Dissatisfaction in Secondary School Teachers. International Journal of Psychology and Psychological Therapy, 10(1), 107-123.
Piko, BF. (2006). Burnout, role conflict, job satisfaction, and psychosocial health among Hungarian health care staff: A questionnaire survey. InternationalJournal of Nursing Studies, 43(3), 311-318.