การสร้างสรรค์บทเพลงเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม

Main Article Content

พระมหาประหยัด ปญฺญาวโร (สุนนท์)
พระมหาสมเด็จ มหาสมิทฺธิ (อัตสาร)
เจษฎา มูลยาพอ
อภิวัฒชัย พุทธจร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาอัตลักษณ์และทุนวัฒนธรรมของตำบลโคกหินแฮ่ 2) สร้างสรรค์บทเพลงเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรม 3) พัฒนากระบวนการสื่อสารบทเพลงเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรม เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลจากเอกสารและการเก็บข้อมูลภาคสนามผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสังเกต ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ พระสงฆ์ ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการ และสมาชิกสภาวัฒนธรรม รวม 30 รูป/คน จาก 10 หมู่บ้าน ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาได้นำมาวิเคราะห์และสร้างสรรค์เป็นบทเพลงสะท้อนอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของตำบลโคกหินแฮ่จำนวน 20 บทเพลง
ผลการวิจัยพบว่า
1. อัตลักษณ์และทุนวัฒนธรรมของตำบลโคกหินแฮ่ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ด้านศิลปะ ดนตรี และหัตถกรรม เช่น การฟ้อนผู้ไทย การทอผ้า และจักสาน 2) ด้านศาสนา ความเชื่อ และประเพณี ซึ่งสะท้อนผ่านพิธีกรรมและงานบุญตามฮีตสิบสอง 3) ด้านวิถีชีวิต ภาษา การแต่งกาย และอาหาร ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน
3. การสร้างสรรค์บทเพลง มีกระบวนการ 2 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นก่อนการผลิต ซึ่งศึกษาอัตลักษณ์ของชุมชนผ่านข้อมูลภาคสนาม พบว่า ชุมชนมีอัตลักษณ์ด้านภาษา ความเชื่อ ประเพณี ดนตรี การแต่งกาย อาหาร และวิถีชีวิตที่โดดเด่น 2) ขั้นการผลิต นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาสร้างสรรค์เป็นบทเพลง จำนวนทั้งสิ้น 20 บทเพลง รูปแบบการประพันธ์เพลง ยึดขนบการประพันธ์เพลงอย่างเคร่งครัด แบ่งเป็น 4 ท่อน มีสัมผัสนอก สัมผัสใน และสัมผัสระหว่างท่อน เนื้อหาบทเพลงเน้นให้สะท้อนบริบทชุมชนและสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมของชุมชนได้จริง มีการเรียบเรียงดนตรีและบันทึกเสียงโดยนักร้องอาชีพและนักร้องในท้องถิ่น
3. การพัฒนากระบวนการสื่อสารบทเพลง บทเพลงถูกนำไปใช้ในชุมชน โดยมีการประดิษฐ์ท่าฟ้อนรำประกอบ ซึ่งออกแบบให้สอดคล้องกับบทเพลง และนำไปใช้ในงานบุญ งานประเพณี และกิจกรรมท้องถิ่น พร้อมเลือกชุดแต่งกายประกอบการฟ้อนรำที่สะท้อนเอกลักษณ์ เช่น ผ้ามัดหมี่ และสีประจำชุมชน คือสีน้ำเงินและสีแดง มีการผลิตมิวสิควิดีโอเผยแพร่ผ่าน Facebook และ YouTube เพื่อประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมสู่สาธารณะ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
(สุนนท์) พ. ป., (อัตสาร) พ. ม. ., มูลยาพอ เ. ., & พุทธจร อ. . (2025). การสร้างสรรค์บทเพลงเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 25(4), 67–82. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/282772
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Article)

เอกสารอ้างอิง

กชพรรณ สกุลพุทธพร. (2564). กระบวนการสร้างสรรค์สื่อเพลงเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษา เพลง 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(2), 212-224. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/250499/168331

กองคลัง อบต.โคกหินแฮ่. (2566). สถิติข้อมูลประชากรตำบลโคกหินแฮ่ ประจำเดือนกันยายน 2566. นครพนม: องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหินแฮ่.

ขวัญใจ บุญคุ้ม. (2559). วัจนลีลาและบทบาทหน้าที่ของเพลงลูกทุ่ง. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

ฐิตินัน บุญภาพ คอมมอน. (2555). เพลงและอัตลักษณ์วัฒนธรรมชุมชน: จรัล มโนเพ็ชร กับบทบาทของนักรบทางวัฒนธรรมดนตรีล้านนา. วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์, 6(2), 146-179. https://ww2.dpu.ac.th/commarts/journal/upload/issue/NaVo1clWVo.pdf

นงเยาว์ อำรุงพงษ์วัฒนา. (2541). ศิลปะการฟ้อนผู้ไทย จังหวัดนครพนม. (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา.

เปรมวิทย์ วิวัฒนเศรษฐ์. (2561). อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ในพิธีกรรมแห่งชีวิตชาวไทลื้อจังหวัดพะเยา. วารสารมหาวิทยาลัยพายัพ, 28(2), 173-189.

พจน์มาลย์ สมรรคบุตร. (2541). การฟ้อนผู้ไทยในเรณูนคร. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภาวิณี แสนชนม์. (2557). การจัดการองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ประชาคมอาเซียน กรณีศึกษาขนมจีนเรณูนคร บ้านเนินน้ำคำ ตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม. วารสารวิจัยสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ, 7(2), 52-63. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/tla_research/issue/view/9117/527

ภิญโญ ภู่เทศ. (2558). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์และพัฒนาเพลงพื้นบ้าน เพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์. Life Sciences and Environment Journal, 16(2), 211-219. https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/psru/article/view/56660

ยุพิน สมคำพี่. (2554). โครงการวิจัยภูมิปัญญาการผลิตข้าวปุ้นน้ำนัวของชาวภูไทเรณูนคร. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 3(5), 120-130. https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/snru_journal/article/view/10009/9043

วิภาณ์ เทศน์ธรรม. (2561). วรรณศิลป์ วาทศาสตร์ของชาวภูไท. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 9(4), 68-83.

วิภาดา เถาธรรมพิทักษ์. (2559). เพลง: วรรณกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 4(1), 62-72. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jcosci/article/view/93116/72942

วุฒิชัย สว่างแสง. (2564). ว่าด้วยสถานะของแถนในวัฒนธรรมอีสาน. วารสารปรัชญาและศาสนา, 6 (1), 82-110. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jprkku/article/view/249977/170286

สุเนตร ศรีหาคลัง, จิรโชค วีระสย, รังสรรค์ สิงหเลิศ และบุญสม ยอดมาลี. (2562). การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม: ภาษาและการแต่งกายของชาวภูไทเรณูนครในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 9(3), 705-715. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/phdssj/article/view/121223/159839

สุเนตร ศรีหาคลัง. (2560). การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม: ภาษาและการแต่งกายของชาวภูไทเรณูนครในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สุภัทรชรี บุญประชุม, ณัฐพงศ์ เขียวศรี, คงฤทธิ์ รีวงษ์, สาวิณี โกพลรัตน์. (2564). การสื่อสารกับการสืบทอดอัตลักษณ์การฟ้อนผู้ไทยเรณูนคร อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม. วารสารศิลปวัฒนธรรมอีสาน, 2(1), 13-29.

Bernabé Villodre, M. del M. (2014). Cultural identity and using music in the intercultural educational process. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 132, 302-308. https://doi.org/10.1016/j.sbspro.2014.04.304

Castañeda Gonzales, K. L. (2022). Comunicación en el fortalecimiento de la identidad cultural: configuración de relaciones y significados. Ciencia Latina, 6(4), 2302-2321. https://doi.org/10.37811/cl_rcm.v6i4.2757

Howell, G., Higgins, L., & Bartleet, B. -L. (2017). Community music practice: Intervention through facilitation. In R. Mantie & G. Dylan Smith (Eds.), The Oxford Handbook of Music Making and Leisure (pp. 601-618). New York: Oxford University Press.

Merriam, A. P. (1964). The Anthropology of Music. Evanston, IL: Northwestern University Press.