แนวทางการใช้หลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

Main Article Content

สมเดช นามเกตุ

Abstract

        งานวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับหลักอิทธิบาท ๔  ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้อิทธิบาท ๔ ในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย และเพื่อศึกษาผลประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท ๔ ในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือแบบสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายสำหรับคนวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน ๕๔ คน แล้วนำเสนอการวิจัยด้วยการพรรณนาวิเคราะห์ และแบบทดสอบนักเรียนหลังเข้าอบรมค่ายพัฒนาคุณธรรมอิทธิบาท ๔ โดยใช้ค่าเฉลี่ย () และส่วนเบี่ยงเบนมาตฐาน (S.D.)

           ผลการวิจัยพบว่า แนวคิดเกี่ยวกับหลักอิทธิบาท ๔ ในพระพุทธศาสนา            ให้ความสำคัญในการดำเนินชีวิตด้วยหลักธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จ คือ เส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จ หรือคุณธรรมที่ให้ถึงความสำเร็จในการทำหน้าที่การงาน ช่วยให้ผู้ปฏิบัติประสบผลสำเร็จได้ตามความมุ่งหมาย ไม่ว่าจะเป็นงานทางราชการ การค้าขาย การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม การทำการเกษตร และประกอบอาชีพอื่นๆ ที่ตนดำเนินการอยู่ประสบผลสำเร็จได้ตามความประสงค์ ถ้าหากมีความพอใจในการทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียร โดยการตั้งจิตมั่น และใช้ปัญญาพิจารณาอย่างแนบคายในการดำเนินงาน การทำงานถ้าประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ คือฉันทะ ความพอใจ วิริยะ ความเพียร จิตตะ เอาใจใส่ วิมังสา หมั่นตริตรอง นี้จะประสบผลสำเร็จในการทำอย่างแน่นอน

        กระบวนการในการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท ๔ ในการจัดการเรียนรู้กิจกรรมกลุ่มช่วยแก้ไข ข้อจำกัดในเรื่องนี้ คือเนื้อหาในด้านจริยธรรมความขยัน ซึ่งค่อนข้างเป็นนามธรรม ทำให้ผู้สอนสร้างแนวทางในการสอนขึ้นมาประกอบในเรียนการสอนขึ้นมาเพื่อให้เป็นรูปธรรม สามารถประเมินผลได้ โดยการใช้กระบวนการกลุ่ม แล้วแบ่งงานให้ผู้เรียนศึกษาและปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักอิทธิบาท ๔ แล้ววัดผลและประเมินตามที่กำหนดไว้ในรูปที่สร้างขึ้นมานั้น พบว่า ผลการพัฒนาความรู้ความเข้าใจและการนำอิทธิบาท ๔ ไปส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย โดยจัดโครงการอบรม ๒ วันและติดตามผลในระยะเวลา ๑ เดือนแล้วทำการประเมินพฤติกรรมของนักเรียน พบว่า (๑) ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนฝึกอบรมและหลังฝึกอบรมการใช้หลักอิทธิบาท ๔ โดยภาพรวม และรายโรงเรียนนักเรียนมีคะแนนความรู้ความเข้าใจการใช้หลักอิทธิบาท ๔ หลังฝึกอบรมสูงขึ้นกว่าก่อนฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ (๒) ดัชนีประสิทธิผลของโครงการเข้าค่ายฝึกอบรมคุณธรรมตามหลัก   อิทธิบาท ๔ แก่นักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองคายมีค่าเท่ากับ ๐.๕๓๐๒ แสดงว่านักเรียนมีคะแนนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนำอิทธิบาท ๔ เพิ่มขึ้นร้อยละ๕๓.๐๒ และ (๓) ผลการประเมินการนำอิทธิบาท ๔ ไปใช้ในการปฏิบัติหลังฝึกอบรมโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด

        ผลที่ได้จากการนำหลักอิทธิบาท ๔ มาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษานั้น ปรากฏว่า ผู้บริหาร ครูผู้สอน ตลอดจนนักเรียนทุกคน มีความพอใจในกระบวนการจัดการเรียนการสอนด้วย หลักอิทธิบาท ๔ ถือว่าการจัดการเรียนโดยวิธีนี้ เป็นวิธีที่ดีที่จะนำมาใช้ในการเรียนการสอนในสถาบันต่อไป

Article Details

How to Cite
นามเกตุ ส. (2016). แนวทางการใช้หลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. Dhammathas Academic Journal, 16(1), 52–63. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/78753
Section
บทความวิจัย (Research Article)