ความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อการบริหารงานของพระสังฆาธิการ ในเขตอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพระสงฆ์ ที่มีต่อการบริหารงานของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการบริหารงานของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคามของพระสงฆ์ที่มีอายุ พรรษา และระดับการศึกษาต่างกัน และ ๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารงานของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พระสงฆ์ที่อยู่อาศัยและสังกัดวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์มหานิกาย อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม จำนวน ๑๕ ตำบล ๑๑๓ วัด รวมทั้งสิ้น ๔๒๕ รูป ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดขนาด กลุ่มตัวอย่างตามสูตรการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของทาโร ยามาเน (Taro Yamane) ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๒๐๖ รูป เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ จำนวน ๓๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๔ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบความแตกต่างใช้ t-test และ F-test (One-way ANOVA) ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พระสงฆ์ ซึ่งมีความรู้ความสนใจ ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอวาปีปทุม
จังหวัดมหาสารคาม โดยได้เลือกพระสงฆ์ทุกตำบลๆ ละ ๑ รูป จำนวน ๑๕ รูป เป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) เครื่องมือทีใ่ ช้ในการวิจัย ไดแ้ ก่ แบบสัมภาษณ์ แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi- structured Interview) กล้องถ่ายรูป และเทปบันทึกเสียง
ผลการวิจัยพบว่า ๑) ความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อการบริหารงานของพระสังฆาธิการในเขตอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทั้งหกด้าน เรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการศาสนศึกษาด้านการสาธารณูปการ ด้านการปกครอง ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและดา้ นการศกึ ษาสงเคราะห ์ ตามลำดับ ๒) ขอ้ เสนอแนะทีไ่ ด้จากการวจิ ยั ครั้งนี้ ลำดับความถี่สงู ไปหาต่ำสามอันดับแรก คือ พระสังฆาธิการควรมีความรู้ในพระธรรมวินัยอย่างแตกฉานและมีความรู้ในกฎระเบียบข้อบังคับทางราชการเป็นอย่างดี การก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนวัตถุและศาสนสถานควรคำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่าของการใช้สอย และพระสังฆาธิการควรหาวิธีการใหม่ๆ ในการบรรยายธรรมหรือการปาฐกถาธรรมที่วัดและในสถานที่ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้คนสนใจฟังมากยิ่งขึ้น