ผลของโปรแกรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • ดวงเดือน สิทธิพานิช พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลสันกำแพง Email : dkbduan.2018@gmail.com

คำสำคัญ:

โปรแกรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเอง, พฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental Research) แบบสองกลุ่มวัดก่อนทดลองและหลังการทดลองโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดมากกว่าร้อยละ 7 จำนวน 60 ราย ที่มารับบริการ ณ คลินิกโรคเรื้อรัง แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสันกำแพง แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 30 รายกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ กลุ่มทดลองได้รับเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมการจัดการเบาหวานด้วยตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ แบบประเมินพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและแบบประเมินระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา Pair T- Test and independent t-test

     ผลการวิจัย พบว่า หลังได้รับโปรแกรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยด้านพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้านการรับประทานอาหารและรับประทานยาดีกว่าก่อนได้รับโปรแกรมและดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p-value<.05) และระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดของกลุ่มทดลองมีระดับน้อยกว่าก่อนการทดลองและน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p-value<.05)

เอกสารอ้างอิง

Department of Disease Control. (2024). Bureau of Noncommunicable Diseases: World Diabetes Day campaign issues. Retrieved July 20, 2024, from http://www.thaincd.com/2024/news/announcement_detail.php?id=13256&gid=16

San Kamphaeng Hospital. (2024). San Kamphaeng Hospital information. Retrieved from https://sankamphaenghospital.com/skph/index.php

Diabetes Association of Thailand. (2017). Statistics of the population not knowing that they have diabetes. Retrieved July 20, 2017, from https://www.dmthai.org/new/

Hathaikan Nimitphong. (2022). Promoting health behavior in patients with chronic diseases. Bangkok: Chulalongkorn University Press.

Wirot Chiamcharoensangsi. (2023). Type 2 diabetes situation worldwide. Retrieved November 11, 2023, fromhttps://www.google.com/search?q

Creer, L. T. (2000). Self-management of chronic illness. In M. Boekaerts, P. R. Pintrich, & M. Zeidner (Eds.), Handbook of self-regulation (pp. 234-253). California: Academic Press.

Kanfer, F. H. (1991). Self-management methods. In F. H. Kanfer & A. Goldstein (Eds.), Helping people change: A textbook of methods (8th ed., pp. 198-203). New York: Pergamon Press.

Nannapat Phiraphruttiphong. (2022). The effect of self-care management program on knowledge, self-care activities, and hemoglobin values with sugar in patients with type 2 diabetes. Journal of the Nursing Association, Northeastern Branch, 30(2), 115-127.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-03-31

รูปแบบการอ้างอิง

สิทธิพานิช ด. . . (2025). ผลของโปรแกรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ . วารสารสิ่งแวดล้อมศึกษาการแพทย์และสุขภาพ, 10(1), 576–583. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/hej/article/view/283210