Relationship between Oral Health Literacy and Self-Care Oral Health Behaviors of Village Health Volunteers in Sao Phao Subdistrict,Si Chon District, Nakhon Si Thammarat Province
Keywords:
Self-care oral health behaviors, Oral health literacy, Village health volunteersAbstract
This study is a cross-sectional descriptive study aimed at examining personal information, the level of oral health literacy, and the level of self- care oral health behavior, as well as investigating the relationship between oral health literacy and self-oral health care behavior among village health volunteers in Sao Phao Subdistrict, Si Chon District, Nakhon Si Thammarat Province. Data were collected from a sample group of 180 participants. The research instrument was a questionnaire consisting of three parts: 1) personal information, 2) oral health literacy, and 3) self-oral health care behavior. The reliability coefficients of the questionnaire were 0.92. Data were analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, and correlation (Pearson Correlation).
The results indicated that the level of oral health literacy was high (M = 4.07, SD = 0.48), while the level of self-care oral health behavior was moderate (M = 3.65, SD = 0.37). Oral health literacy was correlated with self-care oral health behaviors of village health volunteers in Sao Phao Subdistrict, Si Chon District, Nakhon Si Thammarat Province; statistically significant at the 0.01, (r = 0.425, p-value<.001)
References
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี(ด้านสาธารณสุข). กอง
ยุทธศาสตร์และแผน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข [อินเทอร์เน็ต]. 2559. [สืบค้นเมื่อ 4 ม.ค. 68]; เข้าถึงจาก:
https://spd.moph.go.th/20-year-national-strategy-public-health.
กรมอนามัย ศูนย์อนามัยที่ 8 กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือแนวทางการจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก
ภายใต้วิถีใหม่ (New normal). กรุงเทพมหานคร: บริษัท จีดี โปรดักชั่น จำกัด; 2564.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. แผนยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพช่องปากประเทศไทย พ.ศ.2566-2580.
พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2566.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช. รายงานมาตรฐานสาขาสุขภาพช่องปาก. HDC สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัด
นครศรีธรรมราช [อินเทอร์เน็ต]. 2567. [สืบค้นเมื่อ 5 ม.ค. 68]; เข้าถึงจาก: https://nrt.hdc.moph.go.th/hdc/main/close.php.
Alice M Horowitz and Dushanka V Kleinman. Oral health literacy:the new imperative to better oral health.
Dental Clinics North America 2008; 52:33 - 44.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. เอกสารเกณฑ์การคัดเลือก อสม. ดีเด่น สาขาทันตสุขภาพ. สำนัก
ทันตสาธารณสุข [อินเทอร์เน็ต]. 2560. [สืบค้นเมื่อ 5 ม.ค. 68]; เข้าถึงจาก: http://dentalanamai.moph.go.th.
ระบบสารสนเทศงานสุขภาพภาคประชาชน กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน. รายงานจำนวนอสม.แยกตามตำบล
[อินเทอร์เน็ต]. 2568. [สืบค้นเมื่อ 7 ม.ค. 68]; เข้าถึงจาก: https://www.thaiphc.net/phc/phcadmin/administrator/Report/OSMRP000S8.php.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. Determining sample sizes for research activities. Educational and Psychological
Measurement. 1970; 30:607-610.
ทรงวิทย์ จโรภาสรัตน์. การพัฒนาแบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากสำหรับผู้มารับบริการทันกรรมวัยผู้ใหญ่ในบริบทของ
สังคมไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2562.
ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพ: กระบวนการปฏิบัติการเครื่องมือประเมิน(ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่1
กรุงเทพมหานคร: ไอ ดี ออล ดิจิตอล พริ้นท์ จำกัด; 2567.
รอซีกีน สาเร๊ะ, คันธมาทน์ กาญจนภูมิ และกัลยา ตันสกุล. ความรอบรู้ด้านทันตสุขภาพกับการดูแลสุขภาพช่องปากของวัยรุ่น
ตอนต้นในจังหวัดยะลา. วารสารสภาการสาธารณสุขชุมชน 2564; 3:27-39.
ศิริภา คงศรี และสดใส ศรีสะอาด. ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากกับการปฏิบัติตัวในการดูแลสุขภาพช่องปากของนักศึกษาสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาทันตสาธารณสุข วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัด ขอนแก่น. วารสารทันตาภิบาล 2563; 31:133-147.
