Creative Leadership of school Administrators in Pracharat School under the Office Rayong Primary Education Area 2
ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2
Keywords:
ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์, ผู้บริหารสถานศึกษา, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาAbstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนประชารัฐสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูโรงเรียนประชารัฐ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 จำนวน 93 คน กำหนดขนาดตัวอย่างโดยเปิดตารางสำเร็จรูปของ Krejcie and Morgan แล้วสุ่มอย่างง่ายเพื่อหาสัดส่วนแต่ละโรงเรียน เครื่องมือวิจัยได้แก่ แบบสอบถามเป็น แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.90 และแบบสัมภาษณ์เป็นแบบมีโครงสร้าง สุ่มแบบเจาะจง ตัวอย่างที่ใช้ในการสัมภาษณ์จำนวน10 คน ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา 5 คน ครูผู้สอน 5 คน ของโรงเรียนประชารัฐ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และผลการสัมภาษณ์วิเคราะห์โดยการสรุปเป็นความเรียง
ผลการวิจัยจะเป็นอย่างไร 1) ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของโรงเรียนแน่นอนว่าจะต้องมีใครบ้างที่โรงงานเหล่านี้รวมถึงการศึกษาระยอง เขต 2 โดยรวมมีแนวปฏิบัติที่ยอมรับได้เป็นอย่างมาก มีการฝึกทักษะที่ประสบความสำเร็จในระดับมาก ซึ่งสูงสุดคือการสร้างมนุษยสัมพันธ์รองใครคือผู้ที่ไว้วางใจ และด้านการเจรจาต่อรองกับคู่แข่งที่มีพฤติกรรมที่ล้มเหลวในระดับมาก ที่สุดคือการเปรียบเทียบการบริหารเวลา 2) แนวทางการพัฒนาสถานการณ์ผู้นำเชิงสร้างสรรค์เชิงอรรถสำหรับทุกคนในโรงเรียนจะต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก บทความนี้ควรอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับเครื่องมือสมัยใหม่ เปิดกว้างสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ส่งเสริมและสื่อเทคโนโลยีสำหรับครูด้านการทำงานด้านต่างๆ บริหารเวลาที่กล่าวถึงการแข่งขันและมีความชัดเจนของกลุ่มเป้าหมาย การเจรจาต่อรองของผู้นำเสนอนำมาซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมที่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยน้าวที่ดีซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีตามมาสำหรับการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดการเวลา จะขอควรรู้จักวางแผนและทุก ๆ ช่วงเวลาเหล่านี้ควรกำหนดประเด็นด้านเนื้อหาของกลุ่มเป้าหมาย จำเป็นและด้านผู้บริหาร ผู้จัดการจะได้รับคำแนะนำจากงานให้สม่ำเสมอตามความรู้ความสามารถที่เหมาะสมและมีคำถามใด ๆ สำหรับทุกคน ประโยชน์จากการวิจัยทำให้พนักงานเป้าหมายและครูได้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาความเป็นผู้นำของผู้นำ เชิงสร้างสรรค์ของประเด็นที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาด้านการบริหารเวลาและในการนำผลการวิจัยมาใช้การวางแผนกำหนดนโยบายการจัดการจัดการระบบจัดการลำดับขั้นตอนของการกำหนดเป้าหมายของโรงเรียนเพื่อให้ประชาชนได้รับประสิทธิภาพสูงสุดและปรับเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้พบกันในปัจจุบัน
References
กาญจนา ศิลา. (2556). การศึกษาภาวะผู้นําเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียน สังกัดกรุงเทพมหานคร สํานักงานเขตบางเขน. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
จักรกฤษณ์ โพดาพล. (2555). ภาวะผู้นาเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารเทศบาลตำบลในจังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง.
จุฑาธิปต์ ทัพไทย. (2560). ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลสามเสน(สลากกินแบ่งอุปถัมภ์) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร.วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยบูรพา.
ชัชวาล วงศ์ทา. (2558). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบำรุงรักษาทางสาธารณประโยชน์ในเขตเทศบาลตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ณัฐริการ์ แก่นดีลัง. (2556). ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5. งานนิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะครุศาสตร์, วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทราชา.
ดวงกมล กิ่งจําปา. (2555). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมงานเทคโนโลยี ทางการศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการบริหารการศึกษา,คณะครุศาสตร์ อุตสาหกรรม,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ธาราทิพย์ ศรีภักดี. (2559). คุณลักษณะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาใน อำเภอสอยดาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2. งานวิทยานิพนธ์ (กศ.ม.) บริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.
นัยนา ชนาฤทธิ์. (2559). การศึกษาบทบาทภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต:มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี.
บัลลังก์ โรหิตเสถียร. (2559). บันทึกข้อตกลงสานฝันพลังประชารัฐ. [ระบบออนไลน์] http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?Newsid=44713&key=news_act
ปทุม เปียถนอม. (2561). ภาวะผู้นำเต็มรูปแบบ:ปัจจัยสำคัญในการบริหารโรงเรียนประชารัฐ.วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย.
มณฑา ศิริวงษ์. (2560). ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูอำเภอองครักษ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิตสาขาวิชา การบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยปทุมธานี.
วิมล จันทร์แก้ว. (2555). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นาเชิงสร้างสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 3. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาตามหลักสูตรศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต
วิเชียร เกตุสิงห์. (2556). สถิติที่ใช้ในการวิจัย. กรุงเทพมหานคร : กองวิจัย. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
ศรีศักดิ ศูนย์โศรก. (2550). การศึกษาพฤติกรรมการสร้างทีมงานของผู้บริหารโรงเรียน สํานักงานเขตพื้นที่ศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุคนธ์ มณีรัตน์. (2559). รูปแบบการเจรจาต่อรองของผู้บริหารโรงเรียนสาธิต. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุพิชฌาย์ เจริญรักษ์. (2545). การสร้างทีมงานผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาตามการรับรู้ของครูมัธยม ศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดฉะเชิงเทรา. วิทยานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุริยันต์ สะท้าน. (2550). ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะการติดต่อสื่อสารของผู้บริหารกับขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเลย เขต 2. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. บริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย.
Ash, R., & Prsall, M. (2007). The new work of formative leadership. Birmingham: Samford University Press.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size research activities. Educational and Psychological Measurement, 30 (3), 608-610.
Ruth, A., & Maurice, P. (2007). The principal as chief learning officer: The new work of formative leadership. Birmingham: Stamford University Birmingham.
Downloads
Published
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 Mahamakut Buddhist University
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว