การจัดการกลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้าง ตำบลพระธาตุขิงแกง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
การจัดการ, กลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้างบทคัดย่อ
การส่งเสริมอาชีพที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย ทำให้หน่วยงานราชการได้เสนอแนะและสนับสนุนให้ชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อก่อตั้งเป็นกลุ่มแบบทางการในปี พ.ศ. 2544 โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้าง” ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มทอผ้าตีนจกเพียงแห่งเดียวในจังหวัดพะเยา ในระยะแรกที่มีการก่อตั้งกลุ่มเป็นทางการขึ้นนั้น มีสมาชิกกลุ่มประมาณ 50 คน วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งกลุ่มเพื่อให้กลุ่มได้มีการทอผ้าตีนจกและเปิดรับสมาชิกกลุ่มเพื่อทำการทอผ้าเป็นอาชีพเสริมในยามว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา ทำสวน ต่อมาในปี 2549 กลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้าง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่าย ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลพระธาตุขิงแกง ในรูปแบบของการให้กู้ยืมเงินลงทุนเพื่อซื้อวัตถุดิบ เช่น ด้าย ฝ้าย กี่ เป็นต้น และมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านการทอผ้าให้มีคุณภาพ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สนับสนุนกลุ่มด้วยการศึกษาดูงานการทอผ้า จากจังหวัดอื่น ๆ จากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นในพื้นที่ (พฤษภาคม 2560) พบว่า ลักษณะการดำเนินงานของกลุ่มทอผ้า ได้พัฒนาจากการทอตีนจกอย่างเดียวไปเป็นลักษณะของการทอแบบทั้งผืนอันนำไปสู่การเป็นสินค้าหัตถกรรมที่สามารถสร้างรายได้หลักให้แก่สมาชิก นอกจากการประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ มาทอผ้าเป็นครั้งคราว หากมีงานรับจ้างที่ได้ค่าตอบแทนสูงกว่าหรือแน่นอนกว่าก็จะไปทำงานนั้น ๆ อย่างไรก็ตามการรวมกลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้างยังประสบปัญหาในเรื่องของการรวมกลุ่มที่เหนียวแน่นและการมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ขาดความเข้าใจในลักษณะการทำงานเป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เนื่องจากสมาชิกกลุ่มเริ่มก้าวเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ไม่มีผู้สืบทอดภูมิปัญญา จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ผ้าทอตีนจกที่กลุ่มได้ผลิตออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
จากสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพะเยา ได้มองเห็นปัญหาดังกล่าว จึงต้องการศึกษาการจัดการกลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้าง ตำบลพระธาตุขิงแกง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา มุ่งศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการกลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้าง และศึกษาแนวทางการจัดการกลุ่มทอผ้าตีนจกบ้านแม่วังช้างให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และสามารถพัฒนากลุ่มให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้ สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เอกสารอ้างอิง
กรมการพัฒนาชุมชน. (2560). แนวทางการจัดตั้งและพัฒนากลุ่มอาชีพ. กรุงเทพมหานคร.
โกวิทย์ พวงงาม. (2553). การจัดการตนเองของชุมชนและท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร: บพิธการพิมพ์.
คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (กอ.นตผ.). (2549). การจัดตั้งเครือข่ายองค์ความรู้ชุมชนมุ่งสู่การเป็น Knowledge-Based OTOP. กรุงเทพมหานคร : บางกอกบล๊อก.
ฐิติพงศ์ ไชยองค์การ. (2552). การพัฒนาขีดความสามารถการบริหารจัดการฟาร์มสัตว์น้ำ : กรณีศึกษา อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย. ดุษฎีนิพนธ์, ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (บริหารศาสตร์). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ณรงค์ มูลเมือง. (2551). การจัดการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น กลุ่มจักสานไม้ไผ่ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา. การศึกษาอิสระ, บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การจัดการทั่วไป). เชียงราย :มหาวิทยาลัยราชภัฏ.
ทองสุข พระบาง. (2552). ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต.
พัชนี นนทศักดิ์ และคณะ. (2549). การจัดการสมัยใหม่. กรุงเทพฯ :เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า.
ภิตินันท์ อินมูล. (2554). การวิเคราะห์ศักยภาพการดำเนินงานของกลุ่มผู้ผลิตผ้าทอมือภายใต้โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ในจังหวัดอุตรดิตถ์. การศึกษาค้นคว้าอิสระ, เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สุภัสรา บุญเรือง. (2550). การศึกษาการบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจจักสานผักตบชวา. การศึกษาค้นคว้าอิสระ บธ.ม. (การจัดการทั่วไป) เชียงราย : มหาวิทยาลัยราชภัฏ.
Gibson, J.L., Ivancevich, J.M., and Donnelly, J.H. (1994) Organization: Behavior, Structure, Processes. 8th ed. Boston: Richard V. Irwin, Inc.
Kotlet, Philip. (2003). Marketing Management. 11thed. New jersey: Person Education.Mandell, Manrice I. and Larry J. Rosenberg, (1981) Marketing” New Jersey: Prentice Hall.
Morrhead, G., and Griffin, R.W. (1995).Organization Behavior: Managing People and Organizations. 4th ed. Boston: Houghton Mifflin Company.
Susan, C. (1992). THAI TEXTILES. Thailand: Grafos S.A”
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว