การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครกู้ภัยเอกชนในเขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วม, อาสาสมัครกู้ภัย, เขตอำเภอเมืองพะเยาบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อการศึกษาการวิจัยเรื่องการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครกู้ภัยเอกชน ในเขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยแบบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบ (Checklist) ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ อาสาสมัครกู้ภัยเอกชนในเขตอำเภอเมืองพะเยา จำนวน 93 คน โดยผู้ศึกษาได้กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใช้สถิติพื้นฐาน ค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการวิจัยการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครกู้ภัยเอกชนในเขตเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา พบว่า
1. การมีส่วนร่วมในภาพรวมทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการวางแผน ด้านการปฏิบัติงาน ด้านการประเมินผล มีความพึงพอใจในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.47 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.38 และการมีส่วนร่วมด้านการปฏิบัติงานมีค่าเฉลี่ยสูงสุดที่ 4.59 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.37 รองลงมาคือ การมีส่วนร่วมด้านการวางแผน มีค่าเฉลี่ย 3.04 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.41 ส่วนความพึงพอใจในการบริการที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การมีส่วนร่วมด้านการประเมินผล มีค่าเฉลี่ยที่ 2.79 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.38 ตามลำดับ
2. การมีส่วนร่วมด้านการวางแผนของอาสาสมัครกู้ภัยเอกชนในเขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา อยู่ในระดับการมีส่วนร่วมปานกลาง มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ซึ่งในการวางแผนการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินงานของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือการมีส่วนร่วมวิเคราะห์แนวทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าขณะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่ในระดับมากเช่นกัน ส่วนการมีส่วนร่วมกำหนดแผนงานกิจกรรมการดำเนินงานกู้ภัยในพื้นที่อยู่ในระดับปานกลาง และการมีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอยู่ในระดับน้อย ตามลำดับ
3. การมีส่วนร่วมด้านการปฏิบัติงานของอาสาสมัครกู้ภัยเอกชนในเขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด โดยอาสาสมัครกู้ภัยน่าจะมีความถนัดด้านการปฏิบัติงานมากกว่างานด้านวิชาการ ซึ่งการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะ ความสามารถ ด้วยการเข้ารับ การอบรมกับหน่วยงานอื่นอยู่ในระดับมากที่สุด และรองลงมาเป็นการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตามนโยบายการดำเนินงานของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน และการมีส่วนร่วมในการจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องอำนวยความสะดวกไว้รองับการปฏิบัติงาน สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ
4. การมีส่วนร่วมด้านการประเมินผล อยู่ในระดับปานกลาง โดยอาสาสามัครกู้ภัยเอกชนในเขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา มีส่วนร่วมในการตรวจสอบประเมินคุณภาพของงานกู้ชีพกู้ภัยอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนการมีส่วนร่วมในการประเมินผลการทำงานของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอยู่ในระดับปานกลางเช่นกัน และการมีส่วนร่วมในการประชุมสรุปและปรับปรุงในการดำเนินงานของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอยู่ในระดับ ปานกลาง ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
โกศล มีคุณ. (2550). ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับการมีจิตสาธารณะของข้าราชการตำรวจ. กรุงเทพฯ.บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ,
ประภาส สุพรรณี. (2553). “ปัจจัยที่สี่ที่มีผลต่อการเลือกโรงเรียนกวดวิชาของผู้ปกครองนักเรียน
ในเขตกรุงเทพมหานคร.” วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยบูรพา.
จีราวรรณ ตาลช่วง. (2558). การบริหารจัดการองค์การอาสาสมัคร กรณีศึกษาอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ที่ศึกษาจากกรณีศูนย์อปพร. เทศบาลนครรังสิต
คนึงนิจ อนุโรจน์. (2548). การสร้างความตระหนักรู้ ในองค์กร.สืบค้นจากhttps://www.resarchers. in.th.biog/hrdresearch/1276
พณตา คชกูล. (2553). ปจจัยที่สงผลตอประสิทธิผลโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ยโสธร. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบรพา.
พิชัย สมส่งสวัสดิ์. (2552). “ปัจจัยที่่เป็นตัวกำหนดความต้องการที่มีต่อการเรียนกวดวิชา และ
ความสำเร็จในการสอบเข้าศึกษาต่อ.” วิทยานิพนธ์ปริญญาเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต
สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เพ็ญรุ่ง บุญรักษ์. (2552). การปฏิบัติงานร่วมในลักษณะการทำงานเป็นทีมระหว่างอาสาสมัครกู้ภัยในสังกัดมูลนิธิป่อเต็กตึ้งและมูลนิธิร่วมกตัญญูกับหน่วยงานกู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สำขำวิชาสาธารณสุขศาสตร์, คณะสาธารณสุขศาสตร์, มหำวิทยำลัยมหิดล.
นิวัฒน์ สีลาโท. (2558). ศักยภาพอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดขอนแก่น ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารสหวิทยาการวิจัย: ฉบับบัณฑิตศึกษา ปีที่ 4 ฉบับที่ 2
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว