วิเคราะห์คุณค่าประเทศไทย 4.0 ด้วยพุทธธรรมนิยาม เพื่อให้ทราบว่าจะทำให้สังคมไทย 4.0 มีความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืนอย่างแท้จริงได้หรือไม่

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์คุณค่าประเทศไทย 4.0 ด้วยพุทธธรรมนิยามเพื่อให้ทราบว่าจะทำให้สังคมไทย 4.0 มีความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืนอย่างแท้จริงได้หรือไม่ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่เน้นวิธีวิจัยทางเอกสาร โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก เอกสารที่เกี่ยวข้อง และผลงานของท่านผู้รู้ในทางพระพุทธศาสนา ร่วมกับการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง การค้นพบที่ได้ คือ 1) แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 เป็นแผนพัฒนาที่ยึดโยงอยู่กับกระบวนทัศน์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ดั้งเดิม มีลักษณะแยกส่วน เป็นกลไกแบบกลศาสตร์นิวตัน มีระบบเศรษฐกิจและการเมืองที่สัมพันธ์กันระหว่างทุนนิยมเสรีกับประชาธิปไตยแบบตัวแทนจากการเลือกตั้ง ส่งผลให้ยิ่งพัฒนาความเหลื่อมล้ำยิ่งสูงมากจนไม่สามารถรองรับยุค Technology Disruption ที่เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ได้ 2) พุทธธรรมที่วิเคราะห์การพัฒนาประเทศ คือ ธรรมที่ทำให้เกิดกระบวนการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบและแยบคาย จนกระทั้งเห็นความจริงแท้ทั้งระดับตาเห็นและเลยตาเห็น เป็นธรรมที่กลั่นกรองจากข้อมูลภายนอก คือ ปรโตโฆษะ ที่ผสานกับหลักกาลามสูตร และความคิดโดยแยบคาย คือ โยนิโสมนสิการ จนมีความเข้าใจในแผนประเทศไทย 4.0 ว่าไม่สามารถรองรับโลกที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันจากความพลิกผันทางเทคโนโลยีสารสนได้ จำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์เป็นวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ที่เป็นแบบองค์รวมกระบวนระบบ 3) วิเคราะห์คุณค่าประเทศไทย 4.0 ด้วยพุทธธรรมนิยาม เป็นการวิเคราะห์และสังเคราะห์พุทธธรรมนิยามรูปแบบใหม่ ได้แก่ ปฏิจจสมุปบาท กฎไตรลักษณ์ และอริยสัจสี่ ให้เป็นหลักปฏิบัติอันถูกต้องดีงามและประเสริฐ คือ อริยมรรคองค์แปด ที่ได้รับการยืนยันว่า ซับซ้อน และลึกซึ้ง โดยศาสตร์ตะวันตก คือ CHAORDIC KM และ Disruption โดยได้ถูกตีความและสังเคราะห์เพื่อเป็นหลักปฏิบัติทางโลก ได้แก่ ทฤษฎีสามสมดุล