การศึกษาปัจจัยทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อความยุติธรรมในองค์การภาครัฐ
คำสำคัญ:
วัฒนธรรมครอบครัว, วัฒนธรรมสังคม, วัฒนธรรมองค์การ, ความยุติธรรมในองค์การบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความคิดเห็นของพนักงานเกี่ยวกับการรับรู้ความยุติธรรมจากปัจจัยทางวัฒนธรรม 2) ศึกษาความคิดเห็นของพนักงานเกี่ยวกับความยุติธรรมในองค์การภาครัฐ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางวัฒนธรรมกับความยุติธรรมในองค์การภาครัฐ และ 4) ศึกษาปัจจัยทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อความยุติธรรมในองค์การภาครัฐ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ พนักงานในองค์การภาครัฐในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 392 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า
- 1.การรับรู้ความยุติธรรมจากปัจจัยทางวัฒนธรรมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า วัฒนธรรมครอบครัวมีค่าเฉลี่ยมากสุด รองลงมาได้แก่ วัฒนธรรมสังคม และวัฒนธรรมองค์การ ตามลำดับ
- 2. ความคิดเห็นของพนักงานเกี่ยวกับความยุติธรรมในองค์การภาครัฐโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ความยุติธรรมในองค์การด้านข้อมูลข่าวสารมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาได้แก่ การแบ่งปันผลตอบแทน และ กระบวนการขององค์การ ตามลำดับ
- 3.ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางวัฒนธรรมกับความยุติธรรมในองค์การภาครัฐมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อยู่ระหว่าง .160 ถึง .669 ซึ่งคู่ที่มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สูงที่สุด ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์การ (ORG) และความยุติธรรมในองค์การ (OJU)
- 4.ปัจจัยที่ส่งผลต่อความยุติธรรมในองค์การภาครัฐมากที่สุด ได้แก่วัฒนธรรมองค์การ รองลงมา ได้แก่ วัฒนธรรมสังคมและวัฒนธรรมครอบครัวตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
ชูชัย สมิทธิไกร. (2543). “แนวทางการสร้างระบบประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีความยุติธรรม”. วารสารเพิ่มผลผลิต. 5, 43-53.
ธงชัย สันติวงษ์. (2539). การบริหารเชิงกลุยุทธ์. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
ประเวศ วะสี. (2554). “ความยุติธรรม”. สืบค้นเมื่อ วันที่ 17 ธันวาคม 2558 จาก http://www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=935&articlegroup_id=187.
ผจงจิตต์ อธิคมนันทะ. (2521). การเปลี่ยนแปลงสังคมและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พร ภิเศก. (2546). “วัฒนธรรมองค์การและปัจจัยบางประการที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนเหล่าสายวิทยาการของกองทัพบก”. ปริญญานิพนธ์ การศึกษาดุษฏีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วิกิพีเดีย. (2559). “ความยุติธรรม”. สืบค้นเมื่อ 2 มีนาคม 2559 จาก https://th.wikipedia.org/wiki/.
วิรัช สงวนวงศ์วาน. (2547). การจัดการและพฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ : เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโด-ไชน่า.
ศรีศักร วัลลิโภดม.(2554). พัฒนาการทางสังคม-วัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.
สมยศ เชื้อไทย. (2545). ความรู้นิติปรัชญาเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วิญญูชน.
สมยศ นาวีการ. (2543). การบริหารและพฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กรุงเทพมหานคร.
สุขุม นวลสกุล และโกศล โรจนพันธ์. (2539). ทฤษฎีการเมืองสมัยโบราณและสมัยกลาง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุขุมพงศ์ ชาญนุวงศ์ อาชว์ภูริชญ์ น้อมเนียน และบุญวดี มนตรีกุล ณ อยุธยา. (2559). “ความยุติธรรมในมิติด้านวัฒธรรม จริยธรรมทางศาสนาและธรรมาภิบาล”. Veridian E-Journal, Silpakorn University. 9(13), 1370-1381.
สุขุมพงศ์ ชาญนุวงศ์ และบุญวดี มนตรีกุล ณ อยุธยา (2560). การประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อความยุติธรรมในองค์การ. วารสารการวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน. 10(3), 36-47.
สุพัตรา สุภาพ. (2540). สังคมวิทยา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
Adams, J. S. (1965). Advances in experimental psychology. New York: Academic Press.
Folger, R. (1998). Organizational justice and human resource management. Thousand Oaks, CA: Sage.
Sheppard, B. H., Lewicki, R. J. and Minton, J. W. (1992). Organizational justice. New York: Macmillan.
Sukhumpong Channuwong. (2018). “The relationship between good governance and organizational justice: A case study of Bangkok government officials”. Asia Pacific Social Science Review, 18(3), 43-56.
World Justice Project. (2019). Rules of law Index 2019. Retrieved from www.http://worldjusticeproject.org.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว