หลักธรรมาภิบาลและปัจจัยการบริหารงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ของสภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏ

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการรับรู้ถึงการนำเอาหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการปฎิบัติงาน 2) เพื่อศึกษาระดับการรับรู้ถึงปัจจัยการบริหารงาน 3) เพื่อศึกษาถึงระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน 4) เพื่อศึกษาระดับของหลัก ธรรมาภิบาลและปัจจัยการบริหารงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน          5) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 120 คน เชิงคุณภาพกลุ่มตัวอย่างจำนวน 40 คน การเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สถิติ Regression วิเคราะห์ข้อมูลการบรรยายเชิงพรรณนา

          ผลการวิจัยสรุปได้ดังต่อไปนี้

1.ระดับการรับรู้ถึงการนำเอาหลักธรรมาภิบาล ระดับดีมากที่สุด พิจารณาพบว่ามากที่สุด คือ การบริหารตามหลักคุณธรรม 4.38 (S.D=0.65)

2.ระดับการรับรู้ถึงปัจจัยการบริหารงานของสภาฯ ปัจจัยด้านโครงสร้าง ระดับดีมาก 4.20 (S.D=0.73) ปัจจัยด้านระบบการบริหาร ระดับดีมากที่สุด 4.34 (S.D=0.71) ปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์กร ระดับดีมาก 4.20 (S.D=0.75)  ปัจจัยด้านเครือข่าย ระดับดีมาก 4.25 (S.D=0.72)

1. ระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน พบว่า ความคิดเห็นสมาชิกสภาฯที่มีต่อประสิทธิภาพ ระดับดีมากที่สุด 4.31 (S.D = 0.71)
2. ระดับหลักธรรมาภิบาลและปัจกจัยการบริหารงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน พบว่า มีระดับน้อยที่สุด มีเพียงหลักธรรมภิบาล มีความสัมพันธ์ในระดับน้อยมี่สุดในทิศทางบวก (P = .152) ส่วนอีก 4 ปัจจัยจะมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพในปฏิบัติงานอยู่ในระดับน้อยที่สุดทิศทางลบ

5.ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ คือ ขาดงบประมาณสนับสนุน และสภาฯไม่ได้แสดงบทบาทอย่างเต็มที่