การพัฒนาหลักสูตรสำหรับการพัฒนาศักยภาพครูด้านการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5
การพัฒนาหลักสูตรสำหรับการพัฒนาศักยภาพครูด้านการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5
คำสำคัญ:
การสอน, ผู้เรียนเป็นสำคัญ, นักศึกษาครูบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเข้าใจต่อการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญของครู และเสนอแนวแนะแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรสำหรับการพัฒนาศักยภาพครูด้านการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูโรงเรียนสูงเนิน จำนวน 30 คน และนักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 30 คน ซึ่งกำลังปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในเขตจังหวัดนครราชสีมร รวม 60 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยการเปิดตารางของเครซี่และมอร์แกน เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.981 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัย พบว่า ในภาพรวมผู้ตอบแบบสอบถามมีความเข้าใจต่อการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ และด้านการเรียนรู้ที่เน้นสมรรถนะ ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ครูและนักศึกษาครูมีความเข้าใจต่อการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญไม่แตกต่างกัน แนวทางในการพัฒนาหลักสูตรในองค์ประกอบด้านเนื้อหาของหลักสูตร ควรให้ความสำคัญกับด้านการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลา ด้านการเรียนรู้เสมือนจริง และด้านสร้างความรู้สึกความเป็นเจ้าของในการเรียนรู้ เพราะเป็นด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าด้านอื่น ฉะนั้น จึงควรส่งเสริมพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพครูด้านการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
เอกสารอ้างอิง
กชนันท์ ศรีสุข, เปรมจิตร บุญสาย, และอรสา โกศลานันทกุล. (2554). การศึกษาปัญหาการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามความคิดของครูอนุบาลในสถานศึกษาขึ้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระราชูปถัมภ์. 5(1), 59-70.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2556). ไทยรั้งท้ายอาเซียน. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562 จาก http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=34102&Key=hotnews.
กิตติยานนท์ วรรณวงศ์, ประยูร แสงใส, และสาคร มหาหิงคุ์. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางแบบโมเดลซิปปาของนักศึกษา สาขาวิชาการปกครอง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน. วารสารแสงอีสาน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน. 16(1), 179-194.
กีรกิติ์ ทองปรีชา. (2563). การบริหารจัดการการเรียนการสอน ภายใต้สถานการณ์ COVID - 19 ระดับมัธยมศึกษาพื้นที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2564, จาก http://www3.ru.ac.th/mpa-abstract/files/2562_1597914679_6114832031.pdf
ณัชชา ศรีเศรษฐา, จําเนียร พลหาญ และสมชาย วงศ์เกษม. (2554). การศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ของโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26. วิทยานิพนธ์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2563, จาก http://www.human.lpru.ac.th/husocweb/document_ download/man_hum_56_1.pdf
บุญชม ศรีสะอาด. (2543). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีรยาสาส์น.
ปนัดดา อามาตร, ปิยาภรณ์ ศิริภานุมาศ, และเผ่าพงษ์พัฒน์ บุญกะนันท์. (2560). ปัญหาและแนวทางการแก้ไขการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2. การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาครั้งที่ 2 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2560, หน้า 1061-1072.
ประสพชัย พสุนนท์. (2557). ความเชื่อมั่นของแบบสอบถามในการวิจัยเชิงปริมาณ. วารสารปาริชาต มหาวิทยาลัยทักษิณ. 27(1), 145-163.
พรรษา ศรประเสริฐ และฤดีรัตน์ ชุษณะโชติ. (2562). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอ่านภาษาอังกฤษตามทฤษฎีโครงสร้างความรู้ และแนวคิดการสอนแบบแลกเปลี่ยนบทบาทเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 47 (1), 429-449.
พัชราวดี ทองเนื่อง. (2553). ผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญต่อความรู้และการพัฒนาผู้เรียนในรายวิชาพยาธิสรีรวิทยาสำหรับนักศึกษาพยาบาล. Princess of Nadadhiwas University Journal. 2(1), 73-89.
พินโย พรมเมือง, ฐิติยา เรือนนะการ, และวิชิต ทองประเสริฐ. (2562). คุณลักษณะของครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพครูของนักศึกษาระดับมหาบัณฑิตศึกษาสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล. สิกขา วารสารศึกษาศาสตร์. 6(2), 11-20.
เพ็ญศรี พงษ์ประภาพันธ์, ทิพพาพรรณ เดียวประเสริฐ, และวิสาลินี นุกันยา. (2556). สมรรถนะการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญตามการรับรู้ของอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 12(2), 29-38.
รัฐธรรมนุญแห่งราชอาณาจักรไทย. (2560). ราชกิจจานุเบกษา. 134/40 ก/1-90.
วิทยา วาโย อภิรดี เจริญนุกูล ฉัตรสุดา กานกายันต์ และจรรยา คนใหญ่ (2563). การเรียนการสอนแบบออนไลน์ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19: แนวคิดและการประยุกต์ใช้จัดการเรียนการสอน. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9. 14 (34), 285-298.
สถิรพร เชาวนชัย และมรรัตน สารเถื่อนแกว. (2563). ความพร้อมในการนํานโยบายการจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขตภาคเหนือตอนล่าง. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น. 6 (6), 93-105.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2545). ตัวบ่งชี้การเรียนการสอนที่ผู้เรียนสำคัญที่สุด. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
หวน พินธุพันธ์. (2555). การเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ: ปฏิรูปการศึกษาที่สำคัญยิ่ง. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2555 จาก https://www.moe.go.th/moe/upload/news_research/htmlfiles/13188-7587.html
Chuan, C. L., & Penyelidikan, J. (2006). Sample size estimation using Krejcie and Morgan and Cohen statistical power analysis: A comparison. Jurnal Penyelidikan IPBL, 7(1), 78-86.
Kaput, K. (2018). Evidence for Student-Centered Learning. Retrieved 2 August 2020, from https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED581111.pdf
Stephanie. (2015). Unequal Sample Sizes. Retrieved 23 September 2020, from https://www.statis ticshowto.com/unequal-sample-sizes/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว