ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ
คำสำคัญ:
ขวัญและกำลังใจ, การปฏิบัติงาน, ข้าราชการตำรวจบทคัดย่อ
การศึกษาขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณโดยมีแบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษา เก็บและรวบรวมข้อมูลจากข้าราชการตำรวจ จำนวนทั้งสิ้น 150 นาย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา โดยหาค่าสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ค่า t-test ใช้ทดสอบเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของตัวแปรอิสระและการทดสอบ ความแปรปรวนทางเดียว ใช้ One - way ANOVA หรือ F-test สำหรับตัวแปรที่แบ่งกลุ่มมากกว่า 2 กลุ่ม ผลการศึกษา พบว่า
ระดับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติพบว่าในภาพรวมมีระดับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีระดับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานมากที่สุดได้แก่ ด้านสภาพการทำงาน ตามมาด้วยด้านสวัสดิการของหน่วยงานและด้านความก้าวหน้าในอาชีพ และระดับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานน้อยที่สุดคือด้านความมั่นคงในงาน การเปรียบเทียบขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าข้าราชการตำรวจสำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ ที่มี “ปัจจัยส่วนบุคคล” ต่างกัน มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ข้อเสนอแนะจากการศึกษาพบว่าการมอบหมายงานและปริมาณงานที่ได้รับมอบหมายนั้นต้องเป็นไปตามความสามารถและมีความเหมาะสมกับกำลังความสามารถของผู้ปฏิบัติ เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาดเกิดขึ้น ควรได้รับการประกาศเกียรติคุณจากความสำเร็จของงานที่ทำซึ่งเป็นการกระตุ้นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติ การได้เลื่อนเงินเดือนหรือตำแหน่งให้สูงขึ้น รวมถึงโอกาสที่จะได้เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ เพื่อความเจริญก้าวหน้าในการทำงานและเพิ่มทักษะความชำนาญในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้ศึกษาเรียนรู้นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน
เอกสารอ้างอิง
ธนะชัย เหลืองเพชรรัตน์. (2553). แนวทางการพัฒนาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนในสังกัดตำรวจภูธรภาค 6. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร
พรนพ พุกะพันธุ์. (2544). ภาวะผู้นำและการจูงใจ. กรุงเทพฯ : จามจุรีโปรดักท์.
ภัทรวดี มีแดง. (2554). แนวทางการพัฒนาขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการกรมข่าวทหารกองบัญชาการกองทัพไทย. หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทรัพยากรเพื่อความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
เยาวลักษณ์ วรรณโกษิตย์. (2557). ปัจจัยที่ส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์. หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
ยงยุทธ ฉายแสง. (2558). ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในสถานีตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม.ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
วิลาวรรณ รพีพิศาล. (2549). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์วิจิตรหัตถกร.
วิจิตร อาวะกุล. (2542). เทคนิคมนุษยสัมพันธ์. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์.
สัณฐาน ชยนนท์. (2558). ภาวะผู้นำของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต่อการจัดการแก้ไขเหตุการณ์ความไม่สงบ อันเนื่องจากสถานการณ์วิกฤตทางการเมืองในช่วง พ.ศ. 2548-2555. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุวิมล ติรกานันท์. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคม : แนวทางสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสนาะ ติเยาว์. (2545). การบริหารงานบุคคล. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สาริยา น้อยษา. (2542). ขวัญในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองตรวจเข้าเมือง. หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต การบริหารการศึกษา.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อรุณ รักธรรม. (2524). พฤติกรรมมนุษย์ในองค์การ. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว