แนวทางการจัดการชั้นเรียนตามหลักสัปปายะ 4 ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง
คำสำคัญ:
แนวทางการจัดการชั้นเรียน, หลักสัปปายะ 4บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการจัดการชั้นเรียนของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง 2) ศึกษาแนวทางการจัดการชั้นเรียนตามหลักสัปปายะ 4 ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง และ 3) เสนอแนวทางการจัดการชั้นเรียนตามหลักสัปปายะ 4 ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยมีระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบศึกษาเอกสาร แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และระเบียบวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง จำนวน 260 คน โดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเอกสารการวิเคราะห์เนื้อหา และการวิเคราะห์ทางสถิติ คือ หาค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า :
- สภาพปัญหาการจัดการชั้นเรียนของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ การกำหนดกฎระเบียบและแนวปฏิบัติในชั้นเรียน การสร้างวินัยเชิงบวก การสร้างแรงจูงใจและปรับลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก และทักษะด้านการวินิจฉัย ด้านการตัดสินใจ ด้านการบริหารเวลา ด้านการเลือกกลยุทธ์การสอนของครูผู้สอน และด้านการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ตามลำดับ
- การศึกษาแนวทางการจัดการชั้นเรียนตามหลักสัปปายะ 4 ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทอง พบว่า ประกอบด้วยด้านการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ด้านการกำหนดกฎระเบียบและแนวปฏิบัติในชั้นเรียนด้านการสร้างแรงจูงใจและปรับลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน ด้านการสร้างวินัยเชิงบวก ด้านการเลือกกลยุทธ์การสอนของครูผู้สอน ด้านการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก
3. แนวทางการจัดการชั้นเรียนตามหลักสัปปายะ 4 ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จังหวัดอ่างทองพบว่า ด้านอาวาสสัปปายะ มีการจัดชั้นเรียนมีความปลอดภัย จัดชั้นเรียนให้มีบรรยากาศดีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สะอาดและมีความสวยงามอีกทั้งมีพื้นที่ส่วนตัว ด้านอาหารสัปปายะ มีการร้านค้าสวัสดิการผู้ประกอบการมีความยุติธรรมในการขายสินค้าให้นักเรียน ด้านบุคคลสัปปายะ มีการจัดให้ครูส่งเสริมนักเรียน ได้แสดงความสามารถนำผลงานนักเรียนเสนอไว้ที่ห้องเรียนหรือป้ายประชาสัมพันธ์ ประกาศหน้าเสาธงมอบรางวัลผู้ที่มีผลงานโดดเด่น และด้านธรรมสัปปายะมีการจัดให้ครูถ่ายทอดการเรียนการสอน ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2557). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).
นเรศ บุญช่วย. (2555). แผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ที่เหมาะสมสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา .หลักสูตรครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี.
พระสมุห์วินิตย์ ถิรจิตฺโต (การะเกตุ). (2561). การบริหารแหล่งเรียนรู้ตามหลักสัปปายะ 4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ. ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วราภรณ์ รักวิจัย. (2562). การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ (Learning environment). วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์, 2(3) : 25-31.
Mullins.Jouce A. (2001). How field trips in natural areas associated with museums. Arboreta and Aquaria impact the educational experiences of teachers and students.Ph.D. Dissertation. The University of Southern Mississippi.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
