การศึกษาทักษะการรำวงมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
คำสำคัญ:
รำวงมาตรฐาน, ทักษะการรำวงมาตรฐาน, รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาทักษะการรำวงมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการรำวงมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนเทียบเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญณดาวิทยา จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) เครื่องมือทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน 5 ขั้น และแบบประเมินทักษะปฏิบัติเรื่องรำวงมาตรฐานประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความถูกต้องของท่ารำ ด้านลีลาท่ารำ ด้านจังหวะ ด้านความพร้อมเพียง และด้านความกล้าแสดงออก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัย พบว่า 1) ทักษะการรำวงมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ร้อยละ 100 2) ทักษะการรำวงมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
กิ่งกาญจน์ สิรสุคนธ์. รูบริคหรือรูบริคการให้คะแนน. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.กรมวิชาการ. คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. UTQ-02119 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ: นาฏศิลป์ [Online] แหล่งสืบค้น: http: WWWww.krukird.com/02119.pdf [2562,กุมภาพันธ์ 10]
ชวลิต สุนทรานนท์. รัจนา พวงประยงค์. บทความรำวงมาตรฐานท่ารำตามแบบแผนสำนักการสังคีตกรมศิลปากร [Online]. แหล่งสืบค้น:https://sites.google.com/site/tayakornwason/hna-erek [2562, มีนาคม 1]
ชุติมา ปาละวงษ์. (2561). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์เรื่องภาษาท่าทางนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอกที่สอนโดยใช้ชุดการสอนกับการสอนแบบปกติ. นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิชานวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้.
ทิศานา แขกมณี. (2550). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นาฏศิลป์ไทย. (2548). นาฏศิลป์ไทยสำหรับครูประถมศึกษาอุดมศึกษา. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
บุสรินทร์ พาระแพน1, ประสงค์สายหงส์2. การพัฒนาชุดการเรียนรู้การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านตามแนวคิดทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันที่ส่งเสริมบุคลิกภาพและความคิดสร้างสรรค์การปฏิบัติท่ารำสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ประทิน พวงสำลี. หลักนาฏศิลป์. กรุงเทพฯ : ไทยมิตรการพิมพ์.
มิสธัญพร วงษ์สว่าง. (2553). การพัฒนาชุดการสอนเรื่องนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา.
หยาดพิรุณ พวงสุวรรณ์. (2558). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องทักษะพื้นฐานและการฝึกหัดการแสดงนาฏศิลป์สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏราไพพรรณี.
Boeh and Maeshall. (2000). “The Effective of Labanotation in Learning Ballroom Dance.” Dissertation Abstracts International.
Wilson, Cynthaia Louise. An Analysis of a Direct Instruction Produced in Teaching Word Problem-Solving to Leaming Disabled Students.Dissertation Abstracts International.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว