การรับรู้ของครูที่มีต่อกิจกรรมด้านการสื่อสาร: Information gap, Role play และ Simulation สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1

ผู้แต่ง

  • มนชนก กระจ่างพุ่ม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • ภัทร์ธีรา เทียนเพิ่มพูน มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • จิรพร ธนะรัชติการนนท์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คำสำคัญ:

การรับรู้ของครู, กิจกรรมด้านการสื่อสาร Information gap, กิจกรรมด้านการสื่อสาร Role play, กิจกรรมด้านการสื่อสาร Simulation, ครูสอนภาษาอังกฤษ, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานครเขต 1

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการรับรู้ของครูที่มีต่อกิจกรรมด้านการสื่อสาร; Information gap, Role play และ Simulation 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการรับรู้ของครูที่มีต่อกิจกรรมด้านการสื่อสาร; Information gap, Role play และ Simulation (อายุของครูผู้สอนภาษาอังกฤษ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษ) 3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคของกิจกรรมด้านการสื่อสาร; Information gap, Role play และ Simulation กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 กรุงเทพมหานคร (ข้อมูลระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 จำนวน 275 คน โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เครื่องมือที่เป็นแบบสอบถามจำนวน 1 ชุด รวบรวมข้อมูลที่ได้และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยโปรมแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวน (One-Way ANOVA)

ผลการวิจัยพบว่า 1) การรับรู้ของครูที่มีต่อกิจกรรมด้านการสื่อสาร; Information gap, Role play และ Simulation ทั้ง 3 กิจกรรมอยู่ในระดับมาก 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการรับรู้ของครูที่มีต่อกิจกรรมด้านการสื่อสาร; Information gap, Role play และ Simulation ได้แก่ ปัจจัยด้านอายุของครูผู้สอน ปัจจัยด้านจำนวนปีในการสอนภาษาอังกฤษ และปัจจัยด้านระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน มีผลการรับรู้ของครูที่มีต่อกิจกรรมด้านการสื่อสารทั้ง 3 กิจกรรมมีการรับรู้ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นการรับรู้ของครูในด้าน ปัจจัยระดับการศึกษาต่อกิจกรรมการสื่อสาร Role play มีการรับรู้ที่ไม่แตกต่างกัน

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา. ลาดพร้าว

พิชญาภา กล้าวิจารณ์. (2560). “การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กิจกรรมบทบาทสมมติ (Role play).” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในงานอาชีพ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ทิศนา แขมมณี. (2547). ศาสตร์การสอน. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธิดารัตน์ วิเซียรลม. (2554). การใช้กิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองหลวงศึกษา. รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

วนิชา สิรรังหอม. (2563).“การใช้กิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของผู้เรียนในบริบทที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ (EFL).” CRMA Journal of Humanities And Social Science Volume 7: 104-107.

Aida irona, and Ratmanida. (2518).“Using information gap activity in classroom interaction to increase the students’ speaking ability.” Journal of English language teaching 7(1) : 216-222.

Ellen D. Gagme, Carol Walker Yeakovich and Frank R. Yekovich. (1997). Cognitive Psychology of School Learning, The (2nd Edition). Allyn & Bacon.

Hammer, J. (2010). The practice of English Language Teaching Third Edition. London. Longman Press.

Merita Ismaili. (2016). “Information gap activities to enhance speaking skills of elementary level students.” Procedia Social and Behavioral Sciences. 232 : 612-616.

Yamane, Taro. (1967). Statistics, An Introductory Analysis, 2nd Ed., New York : Harper and Row.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-06-19