การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในการกำหนดนโยบาย ด้านการศึกษาของประเทศไทย

ผู้แต่ง

  • ปิยะนาถ บุญมีพิพิธ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
  • อลงกต คชสาร มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง

คำสำคัญ:

การมีส่วนร่วม, การกำหนดนโยบาย, หน่วยงานภาครัฐ, หน่วยงานภาคเอกชน

บทคัดย่อ

 

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาสภาพปัจจุบันของการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษาของไทย 2. สร้างการเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษาของไทย และ 3. ยืนยันการเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษาของไทย เป็นระเบียบวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ทั้งรัฐและเอกชนจากทั่วประเทศ จำนวน 425 คน ด้วยกระบวนการเลือกหลายขั้นตอนเครื่องมือในการวิจัยใช้แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีความตรงรายข้อ 0.6-1.0 มีความเชื่อมั่น 0.994 สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ Factor Analysis ด้วยวิธี Exploratory Factor Analysis (EFA) และยืนยันการเสนอแนวทางด้วยสถิติ Confirmatory Factor Analysis (CFA)

ผลการวิจัยพบว่า

  1. สภาพปัจจุบันในการกำหนดนโยบายการศึกษาของชาติ พบว่าประกอบด้วย 1.1) การร่างนโยบาย พบว่า มาจากข้าราชการประจำ กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ที่ขึ้นอยู่กับระบบการเมือง มีระยะเวลาในการจัดทำน้อยมาก จัดทำในรูป“คณะทำงาน” ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล โดยผู้แทนแต่ละหน่วยงานจากภาครัฐ เป็นผู้ให้ข้อมูล สภาพปัญหาและความต้องการ มาจัดทำร่างนโยบาย 1.2) การอนุมัตินโยบาย โดยใช้มติคณะรัฐมนตรี ที่ตัดสินใจร่วมกัน 1.3) การขับเคลื่อนนโยบาย โดยแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ผลักดันนโยบาย 1.4) การปฏิบัติตามนโยบาย ใช้วิธีออกกฎหมายให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ทั้งระดับประเทศ จังหวัด และสถานศึกษา และสภาพปัจจุบันจากการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า อยู่ในระดับมาก
  2. การเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษาของไทย โดยวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก ด้วยวิธีวิเคราะห์เชิงสำรวจ ได้ 5 องค์ประกอบ คือ 1) การมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ความต้องการ 2) การมีส่วนร่วมด้านวิชาการและวิจัย 3) การมีส่วนร่วมด้านการรับรู้และเห็นชอบ 4) การมีส่วนร่วมการปฏิบัติตามนโยบาย 5) การมีส่วนร่วมในการสนับสนุนนโยบาย โดยค่าน้ำหนักตัวแปรองค์ประกอบ อยู่ระหว่าง 0.630–0.727, ค่าความแปรปรวนของตัวแปร = 66.284, ค่าร้อยละของความแปรปรวน = 39.319, ค่าร้อยละ ของความแปรปรวนสะสม = 51.792
  3. การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงเชิงยืนยัน (CFA) พบว่า องค์ประกอบของการเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษาของไทยโดยตรวจสอบจากค่าสถิติค่าไค-สแควร์สัมพัทธ์ =1.239, df=52 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.115 โมเดลตามสมมุติฐานสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (ß = 0) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ค่าดัชนีตรวจสอบความกลมกลืนได้ค่า GFI=0.982, AGFI=0.952, TLI = 0.992, NFI=0.982, CFI=0.997 ซึ่งมีค่ามากกว่า 0.95 ค่าดัชนีในกลุ่มค่าความคลาดเคลื่อนของการประมาณค่า โดยได้ค่า SRMR = 0.0342 RMR = 0.038 RMESA=0.024 ซึ่งมีค่าน้อยกว่า 0.05

References

กลุ่มนโยบายและแผน. (2564). แผนที่นำทางการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) จังหวัดสมุทรปราการ: สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรปราการ.

คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). ราชกิจจานุเบกษา (เล่ม 134 ตอนที่ 40ก). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: สถาบันราชภัฎอุบลราชธานี.

สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์. (2563). ระบบการศึกษาต้องเร่งปรับตัวในโลกที่กำลังพลิกพัน. กสศ. ค้นเมื่อ, มกราคม 8, 2564, จาก https://www.eef.or.th/interview-somkiat/

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.). (2564). สภาพัฒน์จัดระดมความคิดเห็นต่อร่างแผนฯ 13 ในการประชุมประจำปี 2564 Mission to Transform : 13 หมุดหมายพลิกโฉมประเทศไทย. ข่าวสาร/กิจกรรม. ค้นเมื่อ, 18 ตุลาคม 2564, จาก www.nesdc.go.th

สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). นโยบาย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

อรทัย ก๊กผล. (2552). คู่คิด คู่มือการมีส่วนร่วมของประชาชน สำหรับนักบริหารท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: จรัญสนิทวงศ์การพิมพ์.

Arnstein, S. R. (1969). A Ladder Of Citizen Participation. Journal of the American Institute of Planners, 35, 216-224.

Best, J. W. (1977). Research in Education (3rd ed.). Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall.

Cochran, W. G. (1977). Sampling Techniques (3rd ed.). New York: John Wiley & Sons, Inc.

Diamantopoulos, A., & Siguaw, J. A. (2000). Introducing LISREL: A guide for the uninitiated. London: SAGE Publications, Inc,.

Kaiser, H. F. (1974). An index of factorial simplicity. psychometrika, 39(1): 31-36. doi:10.1007/BF02291575

Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of psychology.

Schumacker, R. E., & Lomax, R. G. (2010). A beginner's guide to structural equation modeling (3rd ed.). New Jersey: Lawrence Erlbaum Associates.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-06-19