การเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริตของเยาวชน ภายใต้แนวคิด “โตไปไม่โกง”
คำสำคัญ:
การเสริมสร้าง, วัฒนธรรมสุจริต, การต่อต้านการทุจริต, เยาวชนบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) วัฒนธรรมค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริต 2) ปัจจัยการเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริต และ 3) แนวทางการเสริมสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมสุจริตของเยาวชนในจังหวัดตรัง ตามหลักโลกปาลธรรม
วิธีดำเนินการวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 18 คน และการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการแจกแบบสอบถาม จากเยาวชนกลุ่มตัวอย่าง 384 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1) ค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริตของเยาวชนภายใต้แนวคิด “โตไปไม่โกง” ของเยาวชน ในจังหวัดตรัง โดยรวมอยู่ในระดับมาก อยู่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ ด้านความซื่อสัตย์สุจริต ด้านการเป็นอยู่อย่างพอเพียง ด้านการกระทำอย่างรับผิดชอบ และ ด้านความเป็นธรรมทางสังคม ตามลำดับ
2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริตของเยาวชน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ดังนี้ ปัจจัยด้านสถาบันครอบครัว ด้านสถาบันการศึกษา ด้านชุมชนและกลุ่มเพื่อน ด้านสื่อมวลชน และด้านสถาบันศาสนา ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัย สามารถร่วมกันอธิบายการเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริตของเยาวชนภายใต้แนวคิด “โตไปไม่โกง” (Y) ได้ร้อยละ 44.6
- 3. แนวทางการเสริมสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมสุจริตและการต่อต้านการทุจริต ให้เยาวชนมีความเกรงกลัวและละอายต่อบาป โดยสถาบันครอบครัวปลูกฝังความซื่อสัตย์ ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง สถาบันการศึกษาสอนให้ละอายต่อการทำบาป มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ กลุ่มเพื่อนและชุมชน ช่วยตักเตือนแนะนำ สื่อมวลชนส่งเสริมเยาวชน ยกย่องผู้ที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมและเยาวชน ด้านสถาบันศาสนา ครูพระสอนศีลธรรม อบรมเรื่องที่ใกล้ตัว เทศน์ใช้ภาษาตามวัยและวันความสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
ข้อมูลด้านการศึกษาจังหวัดตรัง. (2565). [ออนไลน์] แหล่งข้อมูล https://drive.google.com /file/d/ 1kh67AGQMCqhfMl03vuT66mknGl-vQFt0/view [15 มกราคม 2565].
จิตรัตนาภรณ์ เวียงพล และคณะ. (2561). “การศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน เครือข่ายเมืองเชียงขวัญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1”. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด. 7(1) : 12-23.
ฐิตินัน บุญภาพ คอมมอน. (2556). “บทบาทของสื่อใหม่ในการสร้างค่านิยมทางสังคม และอัตลักษณ์ของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพมหานคร”. รายงานการวิจัย. รายงานนี้ได้รับทุนอุดหนุนจากศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ฐ.
ดวงกมล ทองอยู่. (2555). “แนวทางการพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเองของวัยรุ่นตามทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตน”. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์. 4(2) : 14-15.
ธัญญารัตน์ แก้วตะพาน. (2564). “การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ EACDE MODEL ในสาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ที่ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2”. วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี. 17(3) : 79-91.
แผนปฏิบัติการ ด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565).
พงษ์เมธี ไชยศรีหา. (2561). “แนวทางการพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ จังหวัดขอนแก่น”. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. 5(2) : 105-118.
พรพรรณ มากบุญ. (2556). “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทักษะทางสังคมของเด็กและเยาวชนชายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 จังหวัดราชบุรี”. วารสารวิทยบริการ. 24(4) : 114-125.
ภมรรัตน์ ชุมภูประวิโร และคณะ. (2561). “การปลูกฝังความสุจริตของเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนใต้”. รายงานการวิจัย. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
รุ่งฤดี กล้าหาญ และคณะ. (2558). “การพัฒนารูปแบบการวัดและประเมินพฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายของไทยในศตวรรษที่ 21”. รายงานการวิจัย. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน).
ศิริสุข นาคะเสนีย์ และคณะ. (2558). “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมจิตสาธารณะของนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร”. วารสารวิจัยรำไพพรรณี. 9(1) : 80-90.
หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ. (2564). 2 ปีประกาศใช้ รธน. : สำรวจสิ่งที่ กรธ. คิด กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสนามเลือกตั้ง 2562. https://www.bbc.com/thai/thailand-47828666 [15 มกราคม 2564].
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว