ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้หลักธรรมาภิบาลกับประสิทธิผลของสถานศึกษา ในสหวิทยาเขตวัชรีรมยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม

ผู้แต่ง

  • ณัฐนิช สุรสิงห์ไกรสร มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
  • กัญญ์รัชการย์ เลิศอมรศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

คำสำคัญ:

หลักธรรมาภิบาล, ประสิทธิผลสถานศึกษา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสหวิทยาเขตวัชรีรมยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม 2) เพื่­อศึกษาระดับประสิทธิผลของโรงเรียนในสหวิทยาเขตวัชรีรมยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักธรรมาภิบาลกับประสิทธิผลของสถานศึกษาในสหวิทยาเขตวัชรีรมยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม กลุ่มตัวอย่างได้แก่ คือ ครูที่­ปฏิบัติหน้าที่­โรงเรียนในสหวิทยาเขตวัชรีรมยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม โดยผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วยครู รวมทั้งสิ้น 214 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า  การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลําดับดังนี้ ด้านหลักความคุ้มค่า ด้านหลักความรับผิดชอบ ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักหลักคุณธรรม ด้านหลักความโปร่งใส และด้านหลักนิติธรรม ประสิทธิผลของสถานศึกษา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลําดับดังนี้ ด้านการแก้ปัญหาภายในสถานศึกษา ด้านการปรับเปลี่ยนและพัฒนาสถานศึกษา และด้านการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารด้วยหลักธรรมาภิบาลมีความสัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลของสถานศึกษา ในระดับสูงมาก (r = 0.822) อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จากผลการวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษาควรเปิดให้โอกาสให้บุคลากรทางการศึกษา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการบริหารงานหรือดำเนินการต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสถานศึกษา สามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ มีส่วนในการร่วมคิด ร่วมทำร่วมตัดสินใจ ระดมทรัพยากรในการพัฒนาสถานศึกษา เพื่อให้สถานศึกษาพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการพัฒนาด้านการเรียนการการสอนและด้านการบริหารจัดการ

เอกสารอ้างอิง

กมลวรรณ จิ๋วน๊อต.(2557). การศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตา เขต 1.วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.

ปวีณา ศรีนาราง. (2560). คุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร.วิทยานิพนธ์ ค.ม. นครปฐม:มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

พงษ์พิพัฒน์ นารินรักษ์. (2563).ปัจจัยการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 . ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ภาควัชร จันทร์กุล. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักธรรมาภิบาลกับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต 2.วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์,33 – 35.

ภารดี อนันต์นาวี. (2545), ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ, ปริญญานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.

วานิช บุญครอบ. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะของผู้บริหารกับประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย,90-96.

สํานักนายกรัฐมนตรี. (2542). ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. 2542 .

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2552). คู่มือการจัดระดับการกำกับดูแลองค์การภาครัฐตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี . พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ :พรีเมียร์โปรการพิมพ์.

Brinkerhoff, D. W. and T. J. Bossert. (2008). Health governance: Concepts, experience, and programming options. The USA.: U.S. Agency for International Development,238.

Purkey, S. & Smith, M. (1983). Effective schools: A review. The Elementary School Journal,83 (4), 427-452.

Hoy, W. K. & Miskel, C. G. (1991). Educational administration: Theory research and practice(4thed.). Singapore: McGraw-Hill, 305-306.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-30

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย