การเสริมสร้างความสุขของบุคลากรในองค์กรธุรกิจ
คำสำคัญ:
ชุดความรู้ในพระไตรปิฎก, ความสุขของบุคลากร, ดัชนีประสิทธิผล, องค์กรธุรกิจบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการพัฒนาความสุขตามพระไตรปิฎก และ 2) เพื่อศึกษาความสุขของบุคคลากรในองค์กรธุรกิจ รูปแบบการวิจัยเป็นเชิงผสานวิธี ด้วยรูปแบบการวิจัยแบบขั้นตอนเชิงสำรวจ ขั้นตอนแรกเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการศึกษาเชิงเอกสาร ผลผลิตที่ได้คือองค์ความรู้เกี่ยวกับความสุขในพระไตรปิฎก ส่วนขั้นตอนที่สองเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เพื่อยืนยันประสิทธิผลของชุดความรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยจัดอบรมกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานองค์กรเอกชน จำนวน 30 ราย มีการวัดผลสัมฤทธิ์จากดัชนีชี้วัดความสุขในการทำงานทั้ง 9 มิติ ทั้งก่อนและหลังการอบรม และติดตามผลการอบรมเป็นระยะ สถิติที่ใช้เป็น ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ อนุมานด้วยสถิติ Paired t-test ผลการวิจัยพบว่า
- การพัฒนาความสุขตามพระไตรปิฎกโดยการวิเคราะห์จากคณกโมคคัลลานสูตรและและในกีฎาคิริสูตรกล่าวถึง สัทธานุสารีบุคคล ผู้วิจัยสร้างผังมโนทัศน์ 3 แบบ คือ 1. ผังมโนทัศน์”การพัฒนาชุดความรูในพระไตรปิฎกเพื่อเสริมสร้างความสุขของบุคลากรในองคกรธุรกิจ” 2. มโนทัศน์ “ชุดความรู้เรื่อง ศีล: การพัฒนาทางกาย” และ 3. มโนทัศน์”ชุดความรู้เรื่อง อบรมจิตและปัญญา เพื่อพัฒนาความสุข”
- ภาพรวมความสุข ทั้ง 9 มิติ ของบุคลากรที่เข้าอบรม พบว่า หลังผ่านการอบรมบุคลากรมีค่าเฉลี่ยภาพรวมความสุขเพิ่มขึ้น เท่ากับ 67.3 คะแนน (ความสุขในระดับปกติทั่วไป) มากกว่าค่าเฉลี่ยภาพรวมความสุขก่อนอบรม เท่ากับ 46.8 คะแนน (ความสุขในระดับต่ำกว่าปกติทั่วไป) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 หมายความว่าบุคลากรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้มีพัฒนาการความก้าวหน้าด้านความสุขเชิงบวกเพิ่มขึ้น
การวิจัยนี้ได้สร้างนวัตกรรมองค์ความรู้จากการนำหลักธรรมคำสอนเกี่ยวกับการสร้างความสุขที่ปรากฎในพระไตรปิฎกมาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ด้านการบริหารจัดการความสุขของบุคคลในองค์กรร่วมกับกระบวนการพัฒนาชุดความรู้ด้วย ADDIE Model ผู้วิจัยใช้ชื่อว่า “ชุดความรู้ในพระไตรปิฎกเพื่อเสริมสร้างความสุขของบุคลากรในองค์กรธุรกิจ” บุคลากรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้จะมีผลสัมฤทธิ์การพัฒนาความสุขเชิงบวกเพิ่มขึ้น พร้อมนี้ได้จัดทำชุดความรู้นี้ในรูปแบบ e-book พร้อมคลิปวิดิโอ สามารถดาวน์โหลดได้แบบฟรีลิขสิทธิ์ สำหรับบุคคล หน่วยงานและองค์กรบริษัทที่สนใจทั่วไป
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2564). สรุปผลที่สำคัญ การสำรวจสุขภาพจิต(ความสุข) ของคนในประเทศไทย พ.ศ. 2563. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด บางกอกบล็อก.
พระมหาปิยภัทร์ จิรปุณญโชติ. (2555). “การพัฒนารูปแบบบทเรียนออนไลน์ รายวิชาวัฒนธรรมเพื่อ
ชีวิตสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี”. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พระมหาสุพจน์ สุเมโธ (พานทอง). (2546). “ไตรสิกขาสู่การพัฒนาการเรียนรู้”. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศ์ฯ. 2(2) : 82-93.
พระมหาสุทิตย์ อาภากโร และคณะ. (2558). “การสร้างและพัฒนาตัวชี้วัดความสุขของประชาชนตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา”. รายงานวิจัย. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2535). พระไตรปิฎกบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ 2500. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วัชรพล วิบูลยศริน. (2557). “ประยุกต์ใช้ ADDIE Model ในหลักการออกแบบการสอนบนเว็บ เพื่อการสอน สนทนาภาษาไทยเบื้องต้นสำหรับชาวต่างประเทศ”. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 6(12)
ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต และคณะ.(2555). คู่มือการวัดความสุขด้วยตนเอง (Happinometer: The Happiness Self Assessment). พิมพ์ครั้งที่1. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
ศิริพรรณ ตันติวิวัฒนพันธ์. (2561). “ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมตามหลักไตรสิกขากับความสุขของบุคลากรในองค์กรเอกชน”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาชีวิตและความตาย. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สุพิชญา วงศ์วาสนา. “ปัจจัยผลกระทบทางลบจาก COVID-19 ส่งผลต่อความสุขในการทำงานของพนักงานฝ่ายการโดยสาร กรณีศึกษา บริษัทบางกอกไฟลท์ เซอร์วิสเซล จำกัด (BFS)”. วารสารรัชต์ภาคย์ .15(39) : 15-30.
โสวิทย์ บำรุงภักดิ์. (2563). “การพัฒนาความสุขของคนไทยตามหลักพุทธศาสนา”. วารสารปณิธาน. 16(2) : 128.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2561). ผลการสำรวจความสุขคนทำงาน(ในองค์กร)ปี 2561 ไตรมาส1 (มกราคม -มีนาคม 2561). พิมพ์ครั้งที่1. นนทบุรี: บริษัท อัพทรูยู ครีเอทนิว จำกัด.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2562). พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย. พิมพ์ครั้งที่ 55.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Nastasi, B.K. and Schensul, S.L. (2005). “Contributions of qualitative research to the validity of intervention research”. School Psychology. Vol.43 No.3 (2005): 177-195.
Peterson (2003) Peterson, C.. “Bringing ADDIE to Life: Instructional Design at Its Best". Educational Multimedia & Hypermedia. 12(3): 227-241.
TIME Magazine. The science of Meditation, [ออนไลน์], แหล่งที่มา: http://www.chombunghospital.com/cbhsite/index.php/blog/k2/item/11-sci[August 2003].
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว