การพัฒนาระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
คำสำคัญ:
การพัฒนา, ระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ 5 ประการ คือ เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาระบบ สร้างระบบ ศึกษาผลการใช้ระบบ ประเมินและปรับปรุงระบบ และเผยแพร่ระบบ ดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนาโดยประยุกต์ใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยดำเนินการที่โรงเรียนบ้านดงแดงหนองเพียขันธ์ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นกรณีศึกษาขั้นตอนการวิจัยมี 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ขั้นที่ 2 การสร้างระบบ ขั้นที่ 3 การทดลองใช้ระบบ ขั้นที่ 4 การประเมินและปรับปรุงระบบ และขั้นที่ 5 การเผยแพร่ระบบโดยใช้วิธีการประชาวิจารณ์ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการดำเนินการผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดำเนินการในทุกขั้นตอน ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
- ระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามแนวหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีเป้าหมายที่สำคัญ คือ การใช้การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน การพัฒนาระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามแนวทางหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 อาศัยการจัดองค์ประกอบตามแนวคิดเชิงระบบในการมองภาพงานวิจัยให้ชัดเจนขึ้น โดยจัดในกรอบความคิดด้านตัวป้อน ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ส่วนข้อมูลป้อนกลับ จะเป็นการตรวจสอบในแต่ละส่วน
- ระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบของระบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วยระบบย่อยซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็นวงจร 4 ระบบ ได้แก่ ระบบวางแผน ระบบปฏิบัติการ ระบบตรวจสอบ ระบบสะท้อนผล ซึ่งทุกระบบมีขั้นตอนในการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน คือ ขั้นวางแผน ขั้นปฏิบัติการ ขั้นตรวจสอบ และขั้นสะท้อนผล
- ผลการใช้ระบบโดยการนำระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไปสู่การปฏิบัติ ได้แก่ ด้านการใช้ประโยชน์ของระบบ ด้านความเป็นไปได้ในการปฏิบัติจริง ด้านความเหมาะสม ด้านความถูกต้องน่าเชื่อถือ และด้านผลที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้อง
- ผลการประเมินและปรับปรุงระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นผลการดำเนินการประเมินผลหลังจากระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไปทดลองใช้เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ สำหรับนำไปใช้ปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบในส่วนที่ยังพบข้อบกพร่อง การดำเนินการขั้นนี้เป็นผลการประเมินผลหลังจากนำระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไปทดลองใช้เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ สำหรับนำไปใช้ปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบในส่วนที่ยังพบข้อบกพร่อง
5. ผลการเผยแพร่ระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการประชาพิจารณ์ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปรากฏว่า สถานศึกษาขั้นพื้นฐานทุกแห่งเห็นด้วยกับระบบการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดทำขึ้น
เอกสารอ้างอิง
นิตยา เงินประเสริฐศรี. (2544). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 27: 61-73.
นิเทศและพัฒนามาตรฐานการศึกษา, สำนัก. (2550). แนวทางการวัดและประเมินผลในชั้นเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).
Smith, S.E. (1997). Participatory Action Research within the Global Context. In Nurtured by knowledge: Learning to Do Participatory Action–Research. S.E. Smith. D.G. William and N.A. Johnson (editor). Pp.8. New York: The Apex Press.
Stringer, E. (1996). Action Research: A Handbook for Pracifitioners. Thousand Oak: Sage Publications.
Whyte, William Foote, et al. (1991). Participatory Action Research through Practice to Science in Social Research. In Participatory Action Research. William Foote Whyte (editor). pp. 19-55. California: Sage Publications.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว