การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี

บทคัดย่อ

วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี และเพื่อเปรียบเทียบการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตาม เพศ อายุ ขนาดของสถานศึกษา และประสบการณ์การทำงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือบุคลากรในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี จำนวน 9 แห่ง รวมทั้งสิ้น 306 คน ค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้ออยู่ระหว่าง .67-1.00 และค่าความเที่ยงเท่ากับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การแจกแจงความถี่  ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)  การทดสอบความแตกต่างรายคู่ LSD (Least Significant Difference) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี ให้ความสำคัญกับด้านหลักคุณธรรม มากที่สุด รองลงมาคือ ด้านหลักความรับผิดชอบ ด้านหลักความมีส่วนร่วม ด้านหลักความโปร่งใส ด้านหลักนิติธรรม และด้านหลักความคุ้มค่า ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา โดยจำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล  ได้แก่ เพศ ขนาดโรงเรียน อายุ และประสบการณ์ทำงาน พบว่าครูที่มีเพศ อายุ และประสบการณ์ทำงานต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีความคิดเห็นแตกต่างกัน และขนาดโรงเรียนที่แตกต่างกันมี  ความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน