ความรู้เชิงบูรณาการด้านเนื้อหาและการสอนของนักศึกษาปฏิบัติการสอนที่ใช้การศึกษาชั้นเรียนและวิธีการแบบเปิด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความรู้เชิงบูรณาการด้านเนื้อหาและการสอนของนักศึกษาปฏิบัติการสอนที่ใช้การศึกษาชั้นเรียนและวิธีการแบบเปิด กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาปฏิบัติการสอน (กรณีศึกษา) จำนวนทั้งหมด 3 คน ฝึกปฏิบัติการสอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องสมการของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสำรวจ แบบประเมินและวิดีโอบันทึก ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องสมการ 5 แผน 2) แบบบันทึกภาคสนาม 3) กล้องบันทึกวิดีโอ 4) แถบบันทึกเสียง 5) กล้องบันทึกภาพนิ่งในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาปฏิบัติการสอนมีความรู้เชิงบูรณาการด้านเนื้อหาและการสอน ได้แก่ 1) ความรู้ด้านเนื้อหานักศึกษาปฏิบัติการสอนมีการวางแผนสร้างสถานการณ์ปัญหาที่มีความสอดคล้องกับเนื้อหาและสื่อการสอน การวางแผนการใช้สื่อการสอนแสดงแทนโลกจริงของนักเรียนเชื่อมโยงไปยังการแสดงแทนโลกคณิตศาสตร์ การวางแผนคาดการณ์แนวคิดของนักเรียนที่ใช้ในการแก้ปัญหา การวางแผนจัดลำดับการนำเสนอแนวคิดของนักเรียนที่ใช้ในการแก้ปัญหาการวางแผนระบุประเด็นที่จะใช้ในการร่วมกันอภิปรายในชั้นเรียน ความตระหนักถึงแนวคิดและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน 2) ความรู้ด้านการสอนนักศึกษาปฏิบัติการสอนนำเสนอสถานการณ์ปัญหาโดยใช้สื่อการสอนแสดงแทนโลกจริงของนักเรียน สังเกตแนวคิดที่ใช้ในการแก้ปัญหา จัดลำดับการนำเสนอแนวคิดของนักเรียนที่ใช้ในการแก้ปัญหา ระบุประเด็นที่ใช้ในการร่วมกันอภิปรายในชั้นเรียน เชื่อมโยงการแสดงแทนโลกจริงของนักเรียนไปยังการแสดงแทนโลกคณิตศาสตร์ เลือกใช้สื่อและการแสดงแทนอย่างเหมาะสม และ 3) ความยุ่งยากของนักเรียนนักศึกษาปฏิบัติการสอน พบว่า นักเรียนมีปัญหาในการแก้ปัญหาเรื่องสมการและเกิดแนวคิดที่หลากหลายนักเรียนบางคนไม่สามารถเชื่อมโยงภาษาทางคณิตศาสตร์ไปสู่สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
ไมตรีอินทร์ประสิทธิ์. (2546). การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียนโดยเน้นกระบวนการทางคณิตศาสตร์. ขอนแก่น: ขอนแก่นการพิมพ์.
_______. (2547). การสอนโดยใช้วิธีการแบบเปิดในชั้นเรียนคณิตศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น. KKU วารสารคณิตศาสตรศึกษา, 1(1), 18-20.
_______. (2557). กระบวนการแก้ปัญหาในคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียน. ขอนแก่น: ศูนย์วิจัยคณิตศาสตรศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
_______. (2560). การบรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง การทำความเข้าใจคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียนโดยวิเคราะห์หนังสือเรียนคณิตศาสตร์. ขอนแก่น: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
_______. (2561). เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการการนำแนวคิดการศึกษาชั้นเรียนและวิธีการแบบเปิดเข้าสู่ภาคปฏิบัติ. ขอนแก่น: ศูนย์วิจัยคณิตศาสตรศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
รุ่ง แก้วแดง. (2543). ปฏิวัติการศึกษาไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: มติชน.
วิจารณ์ พานิช. (2556). การสร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: เจริญการพิมพ์.
_______. (2562). วิจัยชั้นเรียน เปลี่ยนครู. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสยามกัมมาจล.
สัมพันธ์ ถิ่นเวียงทอง และไมตรี อินทร์ประสิทธิ์. (2561). รูปแบบการสอนแนวใหม่สำหรับการวัดในรายวิชาคณิตศาสตร์ในระดับโรงเรียน. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(3), 118-127.
Abel, K. S. & Roth, M. (1992). Constraints to Teaching Elementary Science: A Case Study of a Science Enthusiast Student Teacher. Science Education, 76(6), 581-595.
Anggraena, Y. A. & Rusman, R. (2019). The Development of Mathematics Curriculum to Increase the Higher order Thinking Skills in The Sustainable Development Goals (SDGs) Era. In The 1st Workshop on Multimedia Education, Learning, Assessment and its Implementation in Game and Gamification in conjunction with COMDEV 2018, (pp.1-10). Indonesia: Womela-GG.
Ball, D. L., Thames, M. H. and Phelps, G. C. (2008). Content Knowledge for Teaching: What Makes It Special?. Journal of Teacher Education, 59(5), 389-407.
Bishara, S. (2015). Active and traditional teaching of mathematics in specialeducation. Creative Education, 6, 2313-2324.
Fennema, E. & Franke, M. (1992). Handbook of Research on Mathematics Teaching and Learning: Teachers’ General Knowledge of Teaching and Decision-Making (1). United States of America: n.p.
Inprasitha, M. (1997). Problem Solving: A Basis to Reform Mathematics Instruction. The Journal of the National Research Council of Thailand, 29(2), 221-259.
Inprasitha, M. (2010). One Feature of Adaptive Lesson Study in Thailand: Designinga Learning Unit. Journal of Science and Mathematics Education in Southeast Asia 2011, 34(1), 47-66.
Lewis, C. (2002). Lesson Study: A Handbook of Teacher-Led Instructional Change. PA: Research for Better Schools.
Murray, F. B. (1998). Reforming teacher education: Issues and the join effort ofeducation and liberal arts faculty. The History Teacher, 31(4), 503-519.
Isoda, M., et al. (2007). Japanese Lesson Study in MATHEMATICS Its Impact, Diversity and Potential for Educational Improvement. Singapore: World Scientific Publishing.
Nohda, N. (2000). A Study of “Open-Approach” Method in School Mathematics Teaching. In Paper presented at the 10th ICME, (pp. 205-210). Japan: Classroom Experiences.
Shulman, L. (1986). Those who understand: Knowledge growth in teaching. Educational Researcher, 15, 4-14.
_______. (1987). Knowledge and teaching: Foundations of the new reform. Harvard Educational Review, 57(1), 1-22.
Takahashi, A. (2015). Lesson Study: An Essential Process for Improving Mathematics Teaching and Learning. In M. Inprasitha, M. Isoda, P. Wang-Iverson, & B. H. Yeap (Eds.). Lesson Study: Challenges in Mathematics Education, (pp. 51-58). Singapore: World Scientific.
Yeap, H. B., Foo, P. & Suan, S. P. (2015). Enhancing mathematics teachers ' professional development through lesson study: A case study in Singapore. In M. Inprasitha, M. Isoda, P. Wang-Iverson & Y. Ban-Har (Eds.). Lesson Study: Challenges in Mathematics Education, (pp. 153-168). Singapore: World Scientific.