ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาผู้นำสภาองค์กรชุมชนตำบลในเขตจังหวัดเลย เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดี

Main Article Content

วิชญ์ มะลิต้น

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาผู้นำสภาองค์กรชุมชนตำบลในเขตจังหวัดเลยเพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดี ใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Approach) ประชากร จำนวน 2,211 คน ด้วยการเปิดตารางของ Krejcie & Morgan จากประชากรให้ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 331 คน แล้วหาค่าสัดส่วนตามพื้นที่เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม 5 ระดับความถูกต้องด้านเนื้อหา (Content Validity) จากค่า IOC อยู่ในเกณฑ์ระหว่าง 0.66-1.00 ความเชื่อถือได้ (Reliability) มีค่า Alpha = 0.833 ใช้การวิเคราะห์สมการเชิงโครงสร้าง (Structural equation model: SEM) โดยใช้โปรแกรมลิสเรล (LISREL)
ผลการวิจัยพบว่า โมเดลรูปแบบความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาผู้นำสภาองค์กรชุมชนตำบลในเขตจังหวัดเลยเพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดี สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์และโมเดลมีความคลาดเคลื่อนในการทำสูง และปัจจัยศักยภาพของผู้นำสภาองค์กรชุมชนตำบล ความผูกพันของคนในองค์กร และปัจจัยสนับสนุน สามารถอธิบายความแปรปรวนการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มได้สูงถึงร้อยละ 100 (R2 = 1.00)

Article Details

How to Cite
มะลิต้น ว. (2023). ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาผู้นำสภาองค์กรชุมชนตำบลในเขตจังหวัดเลย เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดี. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 23(3), 107–118. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/265144
บท
บทความวิจัย (Research Article)

References

กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเลย. (2565). สรุปข้อมูลความจำเป็นขั้นพื้นฐานประจำปี 2565 ภาพรวมจังหวัดเลย. เลย: สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเลย.

กรมการพัฒนาชุมชน. (2559). รายงานการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน พ.ศ. 2555-2559. กรุงเทพฯ: กรมการพัฒนาชุมชน.

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2553). ความมั่นคงของมนุษย์ประเทศไทย ปี 2553 เอกสารวิชาการ สมพ.1 ลําดับที่ 82 เล่มที่ 6/2554. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.

จิตติมงคล ชัยอรัญญา. (2540). การศึกษาชุมชนเพื่อการพัฒนา. (เอกสารประกอบการเรียนภาควิชาการพัฒนาชุมชน). กรุงเทพฯ: คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ณรัชช์อร (ณัฐนรี) ศรีทอง. (2554). การบริหารงานพัฒนาชุมชนเชิงยุทธศาสตร์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

เดช พุ่มคชา. (2559). อุดมการณ์เพื่อสังคม. เข้าถึงได้จาก http://www.thaicivilsociety.com/?p=content&id_content=45

ถวิลดี บุรีกุล และรัชวดี แสงมหะหมัด. (2555). ความเป็นพลเมืองในประเทศไทย (Citizenship in Thailand). เข้าถึงได้จาก https://www.kpi.ac.th/media_kpiacth/pdf/M10_452.pdf

ทิพย์พาพร ตันติสุนทร. (2554). การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สถาบันนโยบายศึกษา.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

ประเวศ วะสี. (2557). Triangle that moves the mountain and health systems reform movement in Thailand. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.

ปาริชาติ วลัยเสถียร และคณะ. (2548). กระบวนการและเทคนิคการทํางานของนักพัฒนา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.).

พระมหาสุทิตย์ อาภากโร (อบอุ่น). (2548). นวัตกรรมการเรียนรู้: คน ชุมชน และการพัฒนา. กรุงเทพฯ: โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.).

สถาบันพระปกเกล้า. (2552). คู่มือพลเมืองยุคใหม่. กรุงเทพฯ: เอ.พี. กราฟิคดีไซน์.

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน). (2557). การจัดตั้งประโยชน์ของสภาองค์กรชุมชน. เข้าถึงได้จาก https://web.codi.or.th/

_______. (2560). รายงานประจำปี 2560. เข้าถึงได้จาก https://web.codi.or.th/printing_media/20180620-4669/

สมศักดิ์ สามัคคีธรรม. (2566). การเสริมพลังชุมชนกับการพัฒนาที่ยั่งยืน. กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

สอรัฐ มากบุญ. (2552). รายงานผลการวิจัยเรื่องกระบวนการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชน จังหวัดสุราษฎร์ธานี. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

สายันต์ ไพรชาญจิตร์. (2547). การฟื้นฟูพลังชุมชนด้วยการจัดการทรัพยากรทางโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์: แนวคิด วิธีการ และประสบการณ์จากจังหวัดน่าน. กรุงเทพฯ: โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข.

สิทธิชัย ธรรมขัน และคณะ. (2566). การเสริมสร้างความร่วมมือในการจัดการทรัพยากรชุมชนของสภาชุมชน. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 23(1), 17-30.

Schuler, D. (1996). New community networks: Wired for change. New York: ACM Press.