Knowledge Management and Product Development in Karen Weaving using Natural Dyes: A Case Study of Ban Mae Khong Sai, Chiang Dao District, Chiang Mai Province
Main Article Content
Abstract
The purposes of this research were 1) study the knowledge of fabric dyeing and weaving among Karen women in Ban Mae Khong Sai, 2) manage the knowledge of natural dyeing and weaving among Karen women in Ban Mae Khong Sai, and 3) develop woven fabric products using natural dyes that reflect the community identity of Ban Mae Khong Sai through participatory methods. This participatory action research involved five Karen women selected through purposive sampling. Data collection methods included community context surveys, in-depth interviews, and participatory creative workshops using the Appreciation Influence Control (A-I-C) process.
The research findings are as follows:
1. The knowledge of fabric dyeing and weaving in Ban Mae Khong Sai is deeply embedded and traditionally passed from mothers to daughters. In the past, natural cotton dyes from locally sourced plants were used, but now chemical dyes are preferred for their convenience. The dyed cotton is used to make bags and clothing for personal use and sale.
2. Through Marquardt's five-step knowledge management approach, new knowledge was created. This includes methods for cleaning cotton fibers, enhancing dye quality, using new dyeing materials, identifying the community identity of Ban Mae Khong Sai to develop fabric patterns, and creating logo and story to add value to the products and community. Additionally, a manual was created to document the traditional knowledge of fabric dyeing and weaving for preservation and dissemination.
3. The newly developed products include bags and clothing made from natural dyed fabrics featuring patterns unique to Ban Mae Khong Sai, such as fish, jackfruit leaf, water wave, cross, and Siao flower patterns.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์References
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน. (2562). ผ้าทอกะเหรี่ยง. เข้าถึงได้จาก https://www.facebook.com/TATHGN/photos/a.2074834202635547/2074834325968868/?type=3
กิตติกาญจน์ กาญจนะคูหะ และคณะ. (2563). การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจกลุ่มตัดเย็บผ้าในชุมชนร่วมใจรักพัฒนา ซอยประชาร่วมใจ 66 แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 15(54), 1-12.
เกศศิริ วงศ์สองชั้น และคณะ. (2560). การปรับตัวทางวัฒนธรรมในโลกสมัยใหม่ของชาวกะเหรี่ยง หมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 4 สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 22 ธันวาคม 2560, (หน้า 43-58). กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
จิราพัทธ์ แก้วศรีทอง. (2563). การจัดการและพัฒนาองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงสู่วิสาหกิจชุมชนในจังหวัดแพร่: กรณีการทำผ้าหม้อห้อมของชาวไทยพวน. วารสารพัฒนาสังคม, 22(1), 69-81.
ชุติมันต์ สะสอง. (2565). การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายในวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 22(2), 45-55.
ดวงรักษ์ จันแตง. (2566). การจัดการความรู้การทอผ้าซิ่นน้ำอ่าง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 15(1), 209-226.
ธิดารัตน์ แผลงไพรี และคณะ. (2565). ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณค่าที่สังคมละเลย. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 8(8), 387-397.
ปรียานุช อุทัยรัศมี, พรนภาพ หอมสินธุ์ และรุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์. (2563). ผลของกระบวนการระดมพลังสร้างสรรค์ชุมชนต่อทัศนคติและความตั้งใจในการไม่สูบบุหรี่ของวัยรุ่นชายในสถานสงเคราะห์. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ, 43(1), 10-18.
พรต เสตสุวรรณ และคณะ. (2563). รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านด้านหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือของชาวลัวะในภาคเหนือของประเทศไทย. วารสารนวัตกรรมและการจัดการ, 5(1), 41-58.
พระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ (สุเทพ ดีเยี่ยม). (2565). การจัดการความรู้บนฐานชุมชนในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 11(1), 214-230.
พระอธิการทวีศักดิ์ กิตฺติญาโณ (วรกิจเจริญวงค์). (2561). การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชุมชนกะเหรี่ยงบ้านพระบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน. วารสารปัญญา, 25(1), 51-63.
พิเชษฎ์ จุลรอด และภาณุ ปัณฑุกำพล. (2565). กระบวนการผลิตและการจัดการความรู้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ร่มบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 28(2), 16-30.
ยศ สันตสมบัติ. (2559). มนุษย์กับวัฒนธรรม. (พิมพ์ครั้งที่ 4 แก้ไขเพิ่มเติม). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ศากุล ช่างไม้. (2555). การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน, 18(1), 42-53.
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้. (2560). งานปักลูกเดือย ภูมิปัญญาบนผ้าทอกะเหรี่ยง. เข้าถึงได้จาก http://www.okmd.or.th/upload/pdf/2560/KC/Embroidery.pdf
อารดา พลอาษา. (2560). การทอผ้าไหมหางกระรอกคู่ตีนแดง อำเภอนาโพธิ์และอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์. (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.
Marquart, M. J. (1996). Building the Learning Organization: A Systems Approach to Quantum Improvement and Global Success. New York: McGraw-Hill.
Nonaka, I. and Takeuchi, H. (1995). The Knowledge-creating Company: How Japanese Companies Create the Dynamics of Innovation. New York: Oxford University Press.