รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำการเป็นผู้ประกอบการของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 12
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดภาวะผู้นำการเป็นผู้ประกอบการของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็น และ 3) สร้างรูปแบบการพัฒนา การวิจัยแบบผสานวิธี โดยศึกษา 3 ระยะ คือ 1) ศึกษาเอกสารองค์ประกอบและประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน 2) ศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 353 คนจากการสุ่มแบบแบ่งชั้น 3) สร้างรูปแบบแล้วประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทุกฉบับมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 1.00 วิเคราะห์ข้อมูลด้วย
การวิเคราะห์เนื้อหา ใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คำนวณค่าดัชนีความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ 13 ตัวชี้วัด ได้แก่ 1) การมีวิสัยทัศน์มี 3 ตัวชี้วัด 2) มีความกล้าเสี่ยง มี 3 ตัวชี้วัด 3) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มี 4 ตัวชี้วัด และ 4) มีการส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจ มี 3 ตัวชี้วัด
2. ภาพรวมสภาพปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง สภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด และด้านที่มีความต้องการจำเป็นอันดับแรก คือ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
3. รูปแบบที่สร้างขึ้นมี 4 ชุดการเรียนรู้ คือ 1) วิสัยทัศน์ 2) ความกล้าเสี่ยง 3) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และ 4) การส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจ มีองค์ประกอบของรูปแบบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการแนวคิด วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ การประเมินผล และเงื่อนไขความเสร็จ และมีผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ ต่อรูปแบบการพัฒนา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์References
จุฑาธิป ศีลบุตร, รจิตพรรณ จันทราช และจิราพร ชมพิกุล. (2553). ปัจจัยของผู้นำวิสาหกิจผลิตภัณฑ์สมุนไพรชุมชนที่มีผลต่อความเข้มแข็งของวิสาหกิจผลิตภัณฑ์สมุนไพรชุมชน. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 30(4), 30-43.
จุลีวรรณ จันพลา. (2559). การเสริมสร้างภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้ประกอบการในธุรกิจแปรรูปอาหาร. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 9(1), 53-60.
ทิศนา แขมมณี. (2551). รูปแบบการสอนทางเลือกที่หลากหลาย. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: แอคทีฟ พริ้นท์.
ธีระ รุญเจริญ. (2554). กลยุทธ์การพัฒนาความเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
บุญจักรวาล รอดบำเรอ และคณะ. (2565). การวิเคราะห์องค์ประกอบภาวะผู้นำแบบประกอบการสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน. วารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร, 16(45), 520-535.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
แพทองธาร ชินวัตร. (2567). คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา. เข้าถึงได้จาก https://drive.google.com/drive/folders/1imuX7bW0bbjQTqLmS5yNVJDUHQFQtZbA
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2561). ความเป็นผู้นำทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รัตติกรณ์ จงวิศาล. (2549). ภาวะผู้นำของผู้ประกอบการไทย. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 9(1), 1-12.
สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. (2566). แผนพัฒนาการศึกษาเอกชน พ.ศ. 2566-2570. กรุงเทพฯ: นิติบุคคลเจี้ยฮั้ว.
สํานักงานศึกษาธิการภาค 12. (2566). แผนพัฒนาการศึกษา กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงตอนกลาง พ.ศ. 2566-2570 (ฉบับทบทวน พ.ศ. 2566). เข้าถึงได้จาก https://drive.google.com/file/d/1HaGAZwBMKLBZcAr_YslTL09Ppgjctd_J/view
สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยการประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Keeves, P. J. (1997). Educational Research Methodology and Measurement: An International Handbook. Oxford, England: Pergamon Press.
Kenney, M., & Mujtaba, B. G. G. (2007). Understanding Corporate Entrepreneurship and Development: A Practitioner View of Organizational Intrapreneurship. Journal of Applied Management and Entrepreneneurship, 12(3), 73-88.