การใช้พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของ โรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

Main Article Content

Paisan Radsanmuang
Phonsawan Sirikunjanapron
Saovaluk Sukprasert
Phonkamon Rahannok

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมชุมชนของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2) ค้นหากลยุทธ์ในการใช้พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และ 3) ปฏิบัติการใช้กลยุทธ์พลังชุมชนขับเคลื่อนการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมชุมชนของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2) ค้นหากลยุทธ์ในการใช้พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และ 3) ปฏิบัติการใช้กลยุทธ์พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 390 คน กลุ่มเป้าหมายคือ ตัวแทนจากโรงงานอุตสาหกรรม 6 โรงงาน ได้แก่ ผู้จัดการโรงงานฝ่ายบริหาร หัวหน้าแผนกด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และพนักงานโรงงาน รวมทั้งหมด 42 คน และตัวแทนชุมชน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลรวมทั้งหมด 48 คน เครื่องมือคือแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 
1. การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมชุมชนของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ส่วนมากเป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 51-60 ปี มีระดับการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย มีอาชีพรับจ้าง มีรายได้อยู่ระหว่าง 9,001-12,000 บาทต่อเดือน ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่เป็นเสียงตามสายของผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ ส่วนมากมีส่วนร่วม ในการพัฒนาชุมชนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในด้านการร่วมรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมภายในชุมชน มีความถี่หรือจำนวนครั้งในการเข้ามีส่วนร่วมในโครงงานส่วนมากจะเป็นปีละครั้ง ในส่วนของระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน ทั้งด้านชุมชน (gif.latex?\bar{x} = 3.10, S.D. = 0.820) ด้านสุขภาพและสวัสดิการ (gif.latex?\bar{x} = 3.15, S.D. = 0.864) ด้านการศึกษา (gif.latex?\bar{x} = 3.17, S.D. = 0.932) ด้านสิทธิมนุษยชน (gif.latex?\bar{x} = 3.12, S.D. = 0.831) ด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ (gif.latex?\bar{x} = 3.10, S.D. = 0.900) ด้านสิทธิของผู้บริโภค (gif.latex?\bar{x} = 3.18, S.D. = 0.903) และด้านวัฒนธรรม (gif.latex?\bar{x} = 3.19, S.D. = 1.030) และระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม ภาพรวมทั้ง 7 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง (gif.latex?\bar{x} = 3.14, S.D. = 0.897) 


2. การค้นหากลยุทธ์ในการใช้พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นพบว่ามีการใช้กลยุทธ์ดังนี้ 1) พัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนให้มีความรู้ความสามารถในการคิดและการวางแผน 2) พัฒนาการจัดระบบข้อมูลและฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันให้ถูกต้องและครอบคลุมเพื่อใช้ในการวางแผน 3) พัฒนาการจัดทำแผนชุมชนที่มุ่งส่งเสริมการขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมโดยการมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วน 4) ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญการปฏิบัติการขับเคลื่อนความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม 5) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในปฏิบัติการขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม 6) สร้างเครือข่ายระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอและจังหวัด เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติการขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม 7) พัฒนาระบบการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานในทุกระดับ โดยเน้นให้ชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมมีส่วนร่วม และ 8) ส่งเสริมให้มีการนำผลการติดตามและประเมินผลไปใช้ในการพัฒนาการบริหารจัดการขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม
3. การปฏิบัติการใช้กลยุทธ์พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ พบว่า กลยุทธ์ทุกด้านต้องมีองค์ประกอบที่สนับสนุนดังนี้1) จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ผู้นำเกิดการคิดและการวางแผน 2) องค์กรปกครองท้องถิ่นควรจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการสาธารณะ 3) ต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์แผนชุมชนที่จับต้องได้ตอบสนองความต้องการของชุมชนได้ 4) ต้องมีการสร้างความเข้าใจให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความรู้ที่ชัดเจนและกระตุ้นให้ชุมชนมีความรักและความหวงแหนสิ่งแวดล้อม 5) ความรู้ที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถนำมาใช้ในการแข่งขันที่ยั่งยืน 6) การรวมตัวกันของกลุ่ม ประกอบด้วย ผู้นำสมาชิก กฎระเบียบ การบริหารจัดการ และทรัพยากรเพื่อการบริหารจัดการ 7) ผู้ติดตามและประเมินผลจะต้องเข้าใจองค์ประกอบ ของโครงการ และ 8) การติดตามและประเมินผลควรจะคำนึงถึงข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้อง 

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
Radsanmuang, P., Sirikunjanapron, P., Sukprasert, S., & Rahannok, P. (2019). การใช้พลังชุมชนขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของ โรงงานอุตสาหกรรมในเขตตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 19(3), 23–32. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/147252
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Article)