บทบาทหน้าที่ของนิทาน ตำนานและเรื่องเล่าชาวไทลื้อบ้านนายางใต้ เมืองน้ำบาก แขวงหลวงพระบาง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทหน้าที่ของนิทาน ตำนานและเรื่องเล่าของชาวไทลื้อบ้านนายางใต้ เมืองน้ำบาก แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาจากข้อมูลจากนิทาน 9 เรื่อง ตำนาน 7 เรื่อง และเรื่องเล่า 14 เรื่อง รวม 30 เรื่องที่ได้จากการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์และจากเอกสารที่มีการบันทึกไว้ นำข้อมูลมาแปลเป็นภาษาไทยแล้วศึกษาวิเคราะห์ตามกรอบแนวคิดบทบาทหน้าที่ของนิทานที่ได้ประยุกต์ใช้แนวคิดบทบาทหน้าที่ของนิทาน และแนวคิดบทบาทหน้าที่ของคติชนวิทยา
ผลการวิจัยพบว่า นิทาน ตำนานและเรื่องเล่าของชาวไทลื้อบ้านนายางใต้มีบทบาทหน้าที่ 4 ด้าน ได้แก่ 1) บทบาทหน้าที่ด้านให้ความบันเทิงและเป็นทางออกให้กับความคับข้องใจ โดยจะพบในนิทานมากที่สุด เพราะนิทานที่มุ่งเน้นให้ความสนุกสนาน 2) บทบาทหน้าที่ด้านให้การศึกษาและสั่งสอน จะพบในเรื่องเล่ามากที่สุด เพราะต้องการเล่าเพื่อให้ผู้ฟังรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณีของไทลื้อ ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและตำนานบ้านเมืองเกี่ยวกับชุมชนตนเอง 3) บทบาทหน้าที่ด้านรักษามาตรฐานทางพฤติกรรมที่เป็นแบบแผนของสังคม จะพบในเรื่องเล่ามากที่สุด ทั้งเรื่องเล่าเกี่ยวกับการทำบุญและเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิถีชีวิตซึ่งแสดงให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมอันเป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่ช่วยรักษาและประพฤติถูกต้องตามจารีตแบบแผนของชุมชนอย่างชัดเจน และ 4) บทบาทหน้าที่ด้านอธิบายที่มาและเหตุผลในการทำพิธีกรรม จะพบมากทั้งจากตำนานที่เป็นที่มาของประวัติหมู่บ้านและชื่อบ้าน และเรื่องเล่าที่มาของการบุญตามฮีตคองที่อธิบายเหตุผลตามคติความเชื่อของชุมชนไว้และที่มาของการเจ็บป่วยที่เชื่อว่าเกิดจากภูตผีวิญญาณหรือสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นผู้บันดาลให้เกิด
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์References
จารุวรรณ ธรรมวัตร. (2537). วรรณกรรมท้องถิ่น กรณีอีสานล้านช้าง. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธวัช ปุณโณทก. (2562). วิเคราะห์วรรณกรรมท้องถิ่นเชิงเปรียบเทียบ. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พระจันทา จันทะวังโส. (2560). ประวัติบ้านนายางเหนือและนายางใต้ กลุ่มนายาง เมืองน้ำบาก แขวงหลวงพระบาง. หลวงพระบาง: ม.ป.ท.
พิทยา ว่องกุล. (2540). พลานุภาพแห่งวรรณกรรม. กรุงเทพฯ: ดอกหญ้า.
ศิราพร ณ ถลาง. (2548). ทฤษฎีคติชนวิทยา วิธีวิทยาในการวิเคราะห์ตำนาน-นิทานพื้นบ้าน. กรุงเทพฯ: โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุกัญญาโสภี ใจกล่ำ. (2563). บทบาทหน้าที่และอุปกิเลสในนิทานพื้นบ้านภาคเหนือตอนล่าง. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 39(6), 115-127. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humsujournal/article/view/244648/168478
อมรา พงศาพิชญ์. (2541). วัฒนธรรม ศาสนา และชาติพันธุ์: วิเคราะห์สังคมไทยแนวมานุษยวิทยา. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bascom, W. R. (1965). Four Functions of Folklore. In by Alan Dundes (Eds.), The Study of Folklore (pp. 279–298). New Jersey: Prentice-Hall.