ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคม ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางการเมือง ปัจจัยทางจิตวิทยาทางการเมือง ปัจจัยการมีส่วนร่วม ทางการเมืองของประชาชนที่มีความสัมพันธ์ต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ 3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคปัจจัย ที่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ประชากร คือ บุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ที่มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 129 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยการใช้สูตรของ W.G Cochran ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 96 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) หาค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson' s Correlation Coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ระดับปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ อยู่ในระดับความเห็นด้วยน้อย เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อมทางการเมือง รองลงมา ได้แก่ ด้านจิตวิทยาทางการเมือง และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
2. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ (Y) ได้แก่ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางการเมือง (X₃) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (R_xy) เท่ากับ 0.49 และปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคม (X₁, X₂) ตัวแปรด้านจิตวิทยาทางการเมือง (X₄) และ ตัวแปรด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน (X₅) ไม่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ (Y) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (R_xy) เท่ากับ -0.01, 0.03, 0.19 และ 0.16 ตามลำดับ
3. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคปัจจัย ที่มีความสัมพันธ์กับการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบุคลากรโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่านักการเมือง ที่มีแต่การคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัว คิดเป็นร้อยละ 29.21 และมีข้อเสนอแนะในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ส่วนใหญ่เห็นควรเปิดโอกาสให้กับประชาชนได้แสดงความคิดเห็น คิดเป็นร้อยละ 37.5