ความผูกพันต่อชุมชนในบริบทแบบชุมชนกึ่งเมือง: กรณีศึกษาชุมชนบ้านท่าตูม จังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาความผูกพันต่อชุมชนของประชาชนในมิติต่างๆ และเพื่อศึกษาความผูกพันต่อชุมชนที่ส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยมีชุมชนบ้านท่าตูม จังหวัดมหาสารคามเป็นกรณีศึกษาในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้การวิจัยเอกสาร การสังเกตการณ์ และการสัมภาษณ์เชิงลึก โดยผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ ประชาชนบ้านท่าตูม จำนวน 100 คน ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้แนวทางการวิเคราะห์แบบแก่นเนื้อหาสาระสำคัญ การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาความผูกพันต่อชุมชนของประชาชนในมิติต่างๆ และเพื่อศึกษาความผูกพันต่อชุมชนที่ส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยมีชุมชนบ้านท่าตูม จังหวัดมหาสารคามเป็นกรณีศึกษาในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้การวิจัยเอกสาร การสังเกตการณ์ และการสัมภาษณ์เชิงลึก โดยผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ ประชาชนบ้านท่าตูม จำนวน 100 คน ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้แนวทางการวิเคราะห์แบบแก่นเนื้อหาสาระสำคัญ
ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนบ้านท่าตูมมีความผูกพันต่อชุมชนบ้านท่าตูมในมิติต่างๆ ได้แก่ 1) ด้านสถานที่ ถึงแม้บ้านท่าตูมจะมิใช่ชุมชนเขตเมืองแต่เป็นชานเมืองของเมืองมหาสารคาม ทำให้การคมนาคมสะดวกโดยไม่จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานเข้าไปอยู่ในเขตเมือง 2) ด้านความรู้สึกรักชุมชน ประชาชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชุมชนตั้งแต่เกิด ทำให้มีความผูกพันกับคนในชุมชนเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน 3) ด้านความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน บ้านท่าตูมเป็นชุมชนที่มีประเพณีประจำท้องถิ่น คือ ประเพณีนมัสการหลวงปู่ถาวร แข่งเรือยาวไหลเรือไฟ การร่วมสืบทอดประเพณีดังกล่าวของคนในชุมชนสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของชุมชนให้กับคนในชุมชน 4) ด้านหน้าที่การทำงาน ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คือ การทำนา ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนในชุมชนจึงทำให้ไม่อยากละทิ้งชุมชนไป 5) ด้านความสัมพันธ์ทางสังคม แม้บ้านท่าตูมจะกลายเป็นชุมชนกึ่งเมืองแต่ความสัมพันธ์แบบเครือญาติและการร่วมกลุ่มยังคงอยู่ซึ่งเป็นสิ่งทำให้คนในชุมชนผูกพันกับชุมชน นอกจากนี้ผลการศึกษาพบว่า ความผูกพันต่อชุมชนของประชาชนบ้านท่าตูมส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน อาทิ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน และการร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาของชุมชน ซึ่งนำไปสู่การกำหนดแนวทางการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน