ยุทธศาสตร์การบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันสภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 3) พัฒนายุทธศาสตร์การบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษา 121 คน หัวหน้าฝ่ายวิชาการ จำนวน 121 คน ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาที่เป็นบุคคลภายนอก จำนวน 121 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 363 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 มีค่าความเที่ยงทั้งฉบับ เท่ากับ 0.98 การเก็บรวบรวมข้อมูลได้แบบสอบถามกลับคืนมา 363 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันสภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 3) พัฒนายุทธศาสตร์การบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษา 121 คน หัวหน้าฝ่ายวิชาการ จำนวน 121 คน ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาที่เป็นบุคคลภายนอก จำนวน 121 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 363 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 มีค่าความเที่ยงทั้งฉบับ เท่ากับ 0.98 การเก็บรวบรวมข้อมูลได้แบบสอบถามกลับคืนมา 363 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบการบริหารที่มีประสิทธิผล มีจำนวน 5 ด้าน ได้แก่ 1) สมรรถนะขององค์การ 2) ภาวะผู้นำทางวิชาการ 3) การจัดกระบวนการเรียนรู้ 4) บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน และ 5) การมีส่วนร่วมของชุมชน
2. สภาพปัจจุบันของการบริหารที่มีประสิทธิผล โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ สมรรถนะขององค์การ รองลงมา คือ การมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดกระบวนการเรียนรู้ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ภาวะผู้นำทางวิชาการ สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารที่มีประสิทธิผล โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมของชุมชน รองลงมา คือ สมรรถนะขององค์การ การจัดกระบวนการเรียนรู้ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ภาวะผู้นำทางวิชาการ และความต้องการจำเป็นของการบริหารที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น โดยรวม PNI = 0.36 ส่วนรายด้าน พบว่า ด้านที่มี PNI สูงสุดคือ ภาวะผู้นำทางวิชาการ มีค่า PNI = 0.40 รองลงมาคือ การจัดกระบวนการเรียนรู้, บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน มีค่า PNI = 0.36 และ การมีส่วนร่วมของชุมชน มีค่า PNI = 0.34 ส่วนข้อที่มี PNI ต่ำที่สุดคือ สมรรถนะขององค์การ มีค่า PNI = 0.33 3. ยุทธศาสตร์การบริหารที่มีประสิทธิผล ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ภาวะผู้นำทางวิชาการ 1 เป้าหมาย 4 กลยุทธ์ 4 ตัวชี้วัด (KPI) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1 เป้าหมาย 6 กลยุทธ์ 6 ตัวชี้วัด (KPI) ยุทธศาสตร์ที่ 3 บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน 1 เป้าหมาย 4 กลยุทธ์ 4 ตัวชี้วัด (KPI) ยุทธศาสตร์ที่ 4 การมีส่วนร่วมของชุมชน 2 เป้าหมาย 4 กลยุทธ์ 4 ตัวชี้วัด (KPI) ยุทธศาสตร์ที่ 5 สมรรถนะขององค์การ 2 เป้าหมาย 4 กลยุทธ์ 4 ตัวชี้วัด (KPI)