ประสิทธิผลรูปแบบกิจกรรมอาชาบำบัดแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะบุคคลออทิสติกของกองทัพบก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลรูปแบบกิจกรรมอาชาบำบัดแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะบุคคลออทิสติกของกองทัพบกใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ประกอบด้วย 1) บุคคลออทิสติก 12 คน 2) กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ บุคลากรจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 2 คน โรงเรียนสาธิตมอดินแดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4 คน ศูนย์บริการบุคคลออทิสติกขอนแก่น 4 คน ผู้ปกครองนักเรียนออทิสติก 12 คน รวม 28 คน 3) กลุ่มสนทนา ได้แก่ บุคลากรจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 2 คน โรงเรียนสาธิตมอดินแดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1 คน ศูนย์บริการบุคคลออทิสติกขอนแก่น 1 คน ผู้ปกครองนักเรียนออทิสติก 1 คน ครูฝึกทหาร 3 คน บุคลากรจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน รวม 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถามความการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลรูปแบบกิจกรรมอาชาบำบัดแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะบุคคลออทิสติกของกองทัพบกใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ประกอบด้วย 1) บุคคลออทิสติก 12 คน 2) กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ บุคลากรจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 2 คน โรงเรียนสาธิตมอดินแดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4 คน ศูนย์บริการบุคคลออทิสติกขอนแก่น 4 คน ผู้ปกครองนักเรียนออทิสติก 12 คน รวม 28 คน 3) กลุ่มสนทนา ได้แก่ บุคลากรจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 2 คน โรงเรียนสาธิตมอดินแดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1 คน ศูนย์บริการบุคคลออทิสติกขอนแก่น 1 คน ผู้ปกครองนักเรียนออทิสติก 1 คน ครูฝึกทหาร 3 คน บุคลากรจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน รวม 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบประเมินทักษะความสามารถ และแบบสอบถามประเด็นการสนทนากลุ่ม ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วนำเสนอเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
1. การประเมินประสิทธิผลรูปแบบกิจกรรมอาชาบำบัดแบบบูรณาการ
1.1 ประสิทธิผลรูปแบบกิจกรรมอาชาบำบัดแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาบุคคลออทิสติก พบว่า 1) สมรรถนะทางร่างกาย เคลื่อนที่แบบมีเป้าหมาย พฤติกรรมนิ่ง การรับรู้ดีขึ้น 2) สมรรถนะทางอารมณ์ ปรับอารมณ์ได้เหมาะสม ควบคุมตนเองได้ ไม่สนใจซ้ำซาก 3) สมรรถนะทางสังคมมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้ 4) สมรรถนะทางสติปัญญา เล่นและจินตนาการได้ มีการสื่อสารกับบุคคลอื่น พฤติกรรมซ้ำซากน้อยลงตามคำสั่งได้
1.2 ประเมินทักษะความสามารถของบุคคลออทิสติก พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปน้อยคือ ด้านอารมณ์ ด้านสังคม ด้านร่างกาย และด้านสติปัญญา
1.3 ประเมินพฤติกรรมบุคคลออทิสติก พบว่า สมรรถนะก่อนดำเนินการทุกด้านอยู่ในระดับน้อยระหว่างดำเนินการทุกด้านอยู่ในระดับปานกลางหลังดำเนินการทุกด้านอยู่ในระดับมาก
1.4 ประเมินความพึงพอใจของผู้มีส่วนร่วม พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากเรียงลำดับจากมากไปน้อยคือ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์ และด้านทางร่างกาย ผู้วิจัยและผู้มีส่วนร่วมเกิดการเรียนรู้จาการปฏิบัติจริงได้องค์ความรู้และนวัตกรรมที่เรียกว่า “4 Steps: PISA ของรูปแบบกิจกรรมอาชาบำบัดแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะบุคคลออทิสติกของกองทัพบก