การนำนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ไปปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการนำนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานการส่งเสริมการลงทุน ด้านสิทธิประโยชน์ของการการส่งเสริมการลงทุน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อนโยบายการบริหารงานการการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานการส่งเสริมการลงทุนด้านสิทธิประโยชน์ของการการส่งเสริมการลงทุน และ 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการบริหารงานการส่งเสริมการลงทุนด้านสิทธิประโยชน์การการส่งเสริมการลงทุน กิจกรรมการการส่งเสริมการลงทุนที่จะสามารถยกระดับคุณภาพและมาตรการการการส่งเสริมการแข่งขันการลงทุน ตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive) โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ที่ใช้เทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) โดยกำหนดกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) ได้แก่ นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน ระดับชำนาญการ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน และหัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และการสังเกตการณ์ (Observation) และการสนทนากลุ่ม (Focus Groups) ได้แก่ ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 2 การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการนำนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานการส่งเสริมการลงทุน ด้านสิทธิประโยชน์ของการการส่งเสริมการลงทุน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อนโยบายการบริหารงานการการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานการส่งเสริมการลงทุนด้านสิทธิประโยชน์ของการการส่งเสริมการลงทุน และ 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการบริหารงานการส่งเสริมการลงทุนด้านสิทธิประโยชน์การการส่งเสริมการลงทุน กิจกรรมการการส่งเสริมการลงทุนที่จะสามารถยกระดับคุณภาพและมาตรการการการส่งเสริมการแข่งขันการลงทุน ตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive) โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ที่ใช้เทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) โดยกำหนดกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) ได้แก่ นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน ระดับชำนาญการ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน และหัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และการสังเกตการณ์ (Observation) และการสนทนากลุ่ม (Focus Groups) ได้แก่ ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 2 ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ บ่อวิน ผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 และผู้ประกอบการส่งเสริมการลงทุน ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ระยองรวมเป็นทั้งสิ้นจำนวน 40 คน
ผลการวิจัยพบว่า 
1. การนำนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานการส่งเสริมการลงทุน ด้านสิทธิประโยชน์ของการการส่งเสริมการลงทุน ทั้งในประเทศและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ก้าวพ้นการเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง (Middle Income Trap) และเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อนโยบายการบริหารงานการการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานการส่งเสริมการลงทุนด้านสิทธิประโยชน์ของการการส่งเสริมการลงทุน มาตรการเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (Tax Factor) เปรียบเทียบกับอุปสรรคของการลงทุน ที่ไม่เกี่ยวกับภาษี (Non-tax Factor) โดยปกติแล้ว นักลงทุนจะคำนึงถึงเงื่อนไขของการลงทุนต่างๆ อย่างละเอียด อาทิ พื้นฐานของเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย ระบบสาธารณูปโภค อัตราค่าแรง ขนาดของตลาดภายในประเทศ ความมีเสถียรภาพทางการเมือง และระบบกฎหมายภาษีอากร ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติคำนึงถึงเมื่อมีการลงทุนในต่างประเทศ 
3. แนวทางการบริหารงานการส่งเสริมการลงทุน ด้านสิทธิประโยชน์การการส่งเสริมการลงทุน กิจกรรมการการส่งเสริมการลงทุนที่จะสามารถยกระดับคุณภาพและมาตรการการการส่งเสริมการแข่งขันการลงทุน ตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 การให้บริการศูนย์ข้อมูลการลงทุนไทยในต่างประเทศ (Thailand Overseas Investment Center) เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกที่ทันสมัยและครอบคลุมทุกประเด็นในการเข้าไปประกอบธุรกิจในต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงาน BOI ซึ่งปัจจุบันมีการเผยแพร่ผลการศึกษาเชิงลึกในประเทศเป้าหมายจำนวน 34 ประเทศนำไปสู่การลงทุนและร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ