วัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีเพศ และชั้นปีการศึกษาต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีเพศ และชั้นปีการศึกษาต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 327 คน โดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติอนุมานหรืออ้างอิง ได้แก่ การทดสอบค่าที (t-test) การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) หรือ F-test พร้อมทั้งใช้วิธีการของเชฟเฟ (Schaffe’s Method) เพื่อหาความแตกต่างรายคู่
ผลการวิจัยพบว่า
1. วัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้งสี่ด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น รองลงมา คือ ด้านการมีความเชื่อมั่นศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย และด้านความสำนึกในหน้าที่พลเมืองส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามลำดับ
2. ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีเพศ และชั้นปีการศึกษาต่างกัน มีวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยโดยรวมทั้งสี่ด้าน ไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน มีวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวนหนึ่งด้าน ได้แก่ ด้านการมีความเชื่อมั่นศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
3. ข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด ลำดับความถี่สูงไปหาต่ำสามอันดับแรก คือ ควรคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว การบังคับใช้กฎหมายจะต้องมีมาตรฐานเดียวกันกับการลงโทษผู้กระทำความผิด โดยไม่เลือกปฏิบัติและควรเคารพในการพูดและการแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ของประชาชน